22/1/59

Movie 2015 (in my view)

ปีที่ 5 แล้วที่เขียน movie review ของเรา (ย้อนอ่านของปี 2014 2013 2012 และ 2011 ได้คะ) ปีนี้ดูหนังน้อยมากๆๆ โดยเฉพาะครึ่งหลังของปี ห่างหายจากโรงหนังไปเลย ได้ไปดูเฉพาะเรื่องที่อยากจะดูจริงๆเท่านั้น ...สิริรวมปีนี้จบที่ 32 เรื่อง
  1. Stand by me : เดาได้หมด แต่ก็น่ารักตามสไตล์โดเรม่อน ซึ้งๆบางขณะ แต่พากย์ไทยนิมัน ลดอรรถรสในการชมลงไปมาก
  2. Seventh Son : สนุกกว่าที่คิดแหะ ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ แต่ไม่หนุกซะอีก ดูแบบไม่คิดมาก ดูเพลินๆไปได้เรื่อยๆ ลุ้นดีนะ คือ พระเอกน่ารักอะ เอาใจช่วยตลอดเรื่องเลย ><
  3. Taken 3 : ภาคนี้ชอบมากกว่าภาค 2 มากๆตอนแรกกะจะไม่มาดูหละเพราะfailed กะภาค2 แต่ไหนๆดูแล้ว ต้องเอาให้สุด ....ลุ้นตลอด ดราม่าดี เรื่อง complicated ขึ้น แม้ predictable แต่ก็สนุก... Liam Neeson แก่มากแล้วแต่ยังเท่อยู่เลย
  4. Laggies : มาดูเรื่องนี้โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องเป็นไง มาดูเพราะชอบ Keira knightley มากกก ชอบน้อง Chloe ด้วย พอมาดูแล้วชอบอ่ะ รู้สึกถึงตัวเองเล็กๆ ตอนท้ายที่น้ำตาไหลพรากออกมาเอง งง ตัวเองเหมือนกัน ชอบตอนที่บอกว่า สิ่งที่เรียนรู้จาก high school - ที่ครูบอกว่าเลขสำคัญมาก ในชีวิตจิง มันไม่จิง พาราโบลิคไม่ได้ใช้ รูปทรงเรขาคณิตเราเจอไม่เกิน8เหลี่ยม - อย่าไปกังวลกะอะไรที่มันไม่แน่นอนในอนาคต ทำในสิ่งที่ใจเราอยากทำ  เราเจอคนที่เก็ตมุขเรารึยัง ก็คนนั้นแหละ
    ใครที่รู้สึกว่าตัวเอง floating เหมือนรู้สึกลอยๆ ไม่ค่อยแน่ใจในอนาคตของชีวิต หรือประเภทยึดติดกับอดีต มาดูหละน่าจะชอบ คือหนังธรรมดานะ แต่มันอึนๆทางความรู้สึกหลังดูหนังจบ
  5. Into the woods : ตอนแรกดู trailer นึกว่าจะเด็ดมาก พอดูจริงๆแล้วก็ง้านๆ เหมือนมัน plot เยอะ พอมารวมเป็นหนึ่งมันเลยไม่ค่อยมีอะไรเด่นเท่าไร ดูได้เรื่อยๆแต่ไม่ได้สนุกมาก สงสัยไม่ค่อยมีช็อตตื่นเต้นหรือลุ้น เป็นหนังเพลง แต่เพลงไม่ค่อยติดหูนัก ชอบการที่ล้อเลียนความเป็น Prince Charming หนังหลายๆเดี๋ยวนี้ออกมาแนวนี้เนอะ สงสัยจะรู้หละว่า Prince มันเหมือน dream ผญ บางทีก็แค่ต้องการอะไรที่ in between ระหว่างความจริงกะความฝัน นักแสดงรวมดาวเด่นๆเพียบ แต่ที่เราชอบสุดก็ยกให้ Emily blunt หละกัน
  6. The Imitation Game : เป็นหนังที่มาดูตามเพราะกระแสเค้าดีจริงๆ ตอนแรกอ่านเรื่องย่อกลัวดูไม่รู้เรื่องเพราะเกรงว่าจะ math จ๋า แต่เอาเข้าจริงๆเค้าถ่ายทอดให้เข้าใจง่ายมากๆ หนัง based on true story ช่วง World war เนื้อเรื่องค่อยข้างหนัก ในแง่ความกดดัน ลุ้นตลอดว่าจะจบยังไง ต้องชม Benedict Cumber batch จริงๆว่าเอาอยู่ ดราม่าชนะเลิศโดยเฉพาะยิ่งตอนท้ายๆเรื่องนะสุดยอด แนะนำ ห้ามพลาด Sometimes it is the people who no one imagines anything of who do the things that no one can imagine.
  7. ซิงเกิลเลดี้ : ดราม่ากว่าที่คิดมากก นึกว่าฮาก่านี้ รวมๆก็ดีนะ อั้มสวยมากก ออร่าทุกฉาก เป้น่ารักฟุดๆ บทน้อยแต่น่ารักอ่ะ ชนะเลิศยกให้เอกกี้แย่งซีนสุดๆ ชอบ "คนเราเลือกจะรักไม่ได้หรอก และก็เลือกจะไม่รักไม่ได้เหมือนกัน"
  8. The theory of everything : เป็นหนังที่ดูแล้ว feel good อะ ผ่านเรื่องลำบาก ดราม่ามาเยอะ แต่จบแล้วรู้สึกดีอะ พระเอกเล่นดีแล้ว แต่นางเอกก็ดีมาก แบกความหนัก ภาระไว้ทั้งเรื่อง  Time is keyword ในเรื่องมีจุดที่ขัดกันเยอะมาก หักล้างกันเองทั้งเรื่อง ทั้ง art-science / God - No god / Singularity - Universe ทุกอย่างล้วนขึ้นกะความเชื่อและสมมติฐาน Where there is life , there is hope.
  9. Fifty shades of grey : สงสัยโดน downgrade expectation ตั้งแต่ก่อนมาดูหละเลยไม่คาดหวังใดๆ หนังไม่ได้แย่นะ แต่มันเรียบซะจนไม่รู้สึกอะไรเท่าไร ชอบครึ่งแรกของเรื่องที่มีส่วนน่ารัก กุ๊กกิ๊ก charming และโรแมนติกอยู่บ้าง ถือว่าทำได้ดีทีเดียว สาวๆช่างฝันดูแล้วยิ้มตาม ตอนกลางถึงท้ายของเรื่องที่นำพาไปสู่ด้าน dark ด้วยความที่มันไม่มีที่มาที่ไป (สำหรับคนไม่อ่านหนังสือ)มันเลยไม่เข้าใจไม่มีเหตุให้เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น หลายฉากทำให้คิดถึง Edward-Bella ตามที่ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจ เช่น เดินเล่นในป่า เพลงประกอบเพราะ นางเอกเล่นดีมาก เปลืองตัวแต่เกิด พระเอกตอนยิ้มหรือหน้าเฉยๆไม่เก๊กเครียดนิหล่อมากกก ผมนิตลงรักเลย ยิ่งฉากตอนสัมภาษณ์นิช่าย หุ่นไม่ต้องพูดถึงแพ้6packs แบบนี้ และที่ชอบคือคนที่คางแบบนี้แหละ สเปก เรื่องนี้ผู้ชายดูอาจจะไม่อิน ผู้หญิงเข้าใจว่าอินเนอร์มาเต็มนะ....ทำได้หมดแหละถ้ารัก ปากบอกรับได้ใจเรียกร้องทั้งนั้นแหละ ใครบ้างไม่อยากได้หัวใจ ไม่อยากได้ความโรแมนติก
  10. Song one : หนังเรียบมากก เพลงอินดี้ แต่โอนะ แนวๆ once แต่เนื้อเรื่องอ่อนกว่า นางเอกดูแก่กว่าพระเอกมากก ผู้ชายเล่นกีต้าร์ ไม่หล่อไงก็ดูเท่ขึ้นอีกหลายสเต็ป... ถือว่าไปฟังเพลง
  11. Kingsman : ใครพลาดจะเสียใจบอกเลย !!!! สนุกมากกก classy & old style spy ลุ้นทั้งเรื่อง เจ๋ง เพลงประกอบเพราะ  Colin flirt เท่สุดๆ เรื่องนี้ยกให้คนแก่เท่กว่าพระเอกหนุ่มหละกันนะ
  12. Birdman : หนัง oscars เลยแนวตามคาด กัดจิก Hollywood ดีเรื่องนี้ได้นักแสดงดี ทำให้หนังน่าดู สื่อความเกรียนออกมาได้
  13. Cinderella : Simply have courage and be kind ภาพสวยมาก ชุดสวย effect เลิศ นางเอกไม่สวย แต่เอวเล็กโคตร เล่นดีมาก สุดๆของเรื่องยกให้ cate blanchett เลิศ
  14. Chappie : ดีใจที่ไม่พลาด ลุ้นทั้งเรื่อง ชอบ คนดี นิ ต้องดูที่จิตสำนึกเลยนะ
  15. Insurgent : หนังภาคต่อที่ทำได้ดีมาก ใครชอบ divergent มาดูไม่ผิดหวังเลย นางเอกมีพัฒนาการในการเล่นดีมาก ทั้งการสื่ออารมณ์และพัฒนาหุ่น มีฉากลุ้นให้ตื่นเต้นตลอด
  16. Fast and Furious 7 : For Paul, I gonna miss his beautiful blue eyes ...Fast and furious เป็นหนังภาคต่อที่ทำได้ดีมาก ผ่านไป 7 ภาคแล้วยังมันส์เหมือนเคย แถมทำให้รู้สึกมากกะความเป็นครอบครัว ...ภาคนี้ดีงามพิเศษเพราะมาดูครั้งสุดท้ายของ Paul walker ที่โลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม จบอย่างซึ้ง ส่วน จา พนม action เลิศ
  17. The age of Adaline : มาดูเรื่องนี้เพราะคนนี้เลย Blake lively สวยลืม เป๊ะเว่อ หนังดูได้เรื่อยๆ plot เดาได้ ดู fashion ในเรื่องเพลิน
  18. Ironman3 : มันส์น้อยกว่าคาด เพราะใส่ดราม่า/เรื่องเยอะ แต่รวมๆโอเคนะ ภาพรวม ดูเป็นทีมดี ไม่เน้นใครเด่นเกิ้น แต่ก็ทำให้ไม่พีคไปด้วย
  19. Jurassic world : มันส์มาก ลุ้นทั้งเรื่อง ไดโนเสาร์ plot เดิมๆแต่หวนให้รู้สึกถึงตอนเด็กๆที่ดูเรื่องนี้ ชอบที่ใส่ความสัมพันธ์ของผู้เลี้ยงกะสัตว์เลี้ยงที่ใส่ไปในเรื่อง ตอนจบของเรื่องไม่ค่อยสมจริงไปหน่อย แต่อภัยได้ ไม่ง้านคงไม่จบ Ps. นางเอกนิสุดยอด วิ่งได้ไงบนรองเท้าส้นสูงตลอดเรื่อง
  20. Minions : น่ารักมากกก โดยเฉพาะ Bob ...super duper cute ดูสนุก คาแร็คเตอร์มินเนี่ยนๆทำให้เราไม่ผิดหวัง พูดไม่เป็นภาษา แต่เราเข้าใจกันนะ
  21. Magic Mike XXL : เหมือนเป็นภาคจบของ magic mike เลย บททำให้รู้สึกง้านนะ ภาคนี้ดูเดินเรื่องช้า มี story มาก ดึงความเด่นของทุกคนออกมา เพลงประกอบเพราะดี เต้นกันพริ้วมาก
    ถ้าใครไม่ได้ชอบ Channing Tatum อย่างเราไม่ต้องมาดูก็ได้ ธรรมดา
  22. Little Forest : Farm cook eat to live นิยามสำหรับเรื่องนี้ เรื่อยๆslow life แนวๆญี่ปุ่นมาก เรื่องเล่าถ่ายทอดเน้นสองฤดูคือหนาวกะใบไม้พลิ ดูแล้วอยากไปญี่ปุ่นอีกเลย ฉากธรรมชาติแต่มันดีมาก แนะนำกินข้าวไปก่อนดู เพราะอาหารมันน่ากินทุกอย่างจริงๆ
  23. Antman : มันดีมากกกก ครบรสมาก บู๊ ดราม่า cg effect เจ๋ง แถมตลกอีกต่างหาก กัดจิก marvel กันเอง ใครจะคิดว่า Antman เป็นยอดมนุษย์ที่เจ๋งขนาดนี้ Paul Rudd สมบทบาทมาก มาดกวนๆเท่ๆทึ่มๆ ส่วน Michael Douglas so cool สุดๆ เรื่องนี้นอกจากบทดีแล้ว ได้นักแสดงที่ถ่ายทอดได้สมบทบาทสุดๆ  จัดว่าเป็นหนังที่ชอบมากแห่งปีนี้เลย Ps หุ่นนางเอกมันเลิศมาก เห็นกล้ามแขนแล้วเลิฟเลย
  24. Ex machina : ถ้าใครชอบเรื่อง her น่าจะชอบเรื่องนี้ แนวๆเดียวกัน แต่เรื่องนี้จะดราม่า โหดซับซ้อนมากกว่าความโรแมนติก ความรู้สึกหลังดูจบ เหนือดีแหะ คิดได้ไง เสียดายไม่เข้าโรงในไทย
  25. Ted 2 :ชอบภาคแรกมากกว่าเยอะเลย ภาคนี้มันไม่ขำ มุกที่ปล่อยมันไม่ได้อย่างภาคแรกอะ แต่ก็ไม่แย่นะแค่ธรรมดา จุดขายยังเป็นความแสบของเจ้าหมีเท็ดอยู่ แค่มันไม่กวนทะลึ่งเท่าภาคก่อน
    ดราม่าใช้ได้เลย ชอบตอนท้ายที่ Morgan freeman มาปิดท้าย ซึ้งดี
  26. Inside Out : หนังดีมากก ชอบที่ถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกเราออกมาให้เห็นภาพณ ขณะใด ความรู้สึกใดมาครอบงำเราjoysadness disgust fear anger...ทุกๆอย่างล้วนอยู่ในความทรงจำ บางอย่างอาจจะลืมเลือนไปบ้าง แต่ล้วนทำให้เราเป็นเรา บางทีความเศร้าก็งดงาม
  27. ฟรีแลนซ์ : คนมาดูเพราะเป็นหนัง GTH และพร้อมจะขำไปกะมุกอยู่แล้ว แต่อย่าคาดหวังว่าจะเป็นอย่าง GTH ทุกเรื่อง....หนังมันไม่สุด จะฮาก็ไม่ทั้งหมด หนักไปทางเศร้า มีซึ้งปนบ้าง แต่ก็ไม่ deep จะโรแมนติกก็เกือบหละแต่ก็ไม่ ชอบซันนี่ เอาอยู่ทั้งเรื่อง คิดนอกใจเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ทำให้ไม่แป๊กไปซะหมด (แต่บางคนก็บ่นว่าเยอะไป) มนุษย์บ้างาน ควรไปดู ! ส่วนที่เราชอบของหนัง คือ ความอินส่วนตัว ประโยคนึงซึ่งตรงกะเหตุการณ์ในชีวิตจริง เราเหมือนซันนี่ในเรื่องที่ไม่ค่อยกลัวเรื่องตาย...เจอประโยคนึง โดนมาก ก็เพราะเป็นคนที่ไม่มีใครให้ต้องห่วงซินะ อีกอย่าง เคยผ่านมาก่อน phase บ้างานมากมาก่อนแค่ต้องการอยากได้รับคำชม + perfectionist สุดท้ายก็เท่านั้นแหละ
    สุดท้ายที่เหมือนสุด ก็ตรงตัวคนเดียวนิแหละ 5555
  28. Maze runner the scorch trials : ภาคนี้ก็ยังคงทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ชอบภาพแรกมากก่าแต่ภาคนี้ก็ไม่แย่นะสำหรับการเป็นหนังภาคต่อ ดูสนุกและมีให้ลุ้นอยู่ตลอด ชอบที่ฉากสวย มีหลายๆครั้งที่ทำให้ตกใจ แล้วก็ชอบที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีในเรื่องของมิตรภาพ แต่พอไม่ใช่เขาวงกต ภาคต่อเรื่องเลยต้องพยายามหา story มาใหม่ บางอย่างมันเลยดูไม่สมจริงมากๆถ้าคิดตาม logic ....ดูเอามันส์ อย่าคิดมากแทน รอดูภาคต่อไป Ps. มินโฮคนเดิมของน้องหายไปไหน คนที่เท่ๆ ดูขรึมๆหายไป
    Pss. บางครั้ง นึกว่าดู game of thrones นักแสดงยังติด character อยู่
  29. เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ : ขำหนักมากกกกกก ชอบมากกก ชอบที่ใส่เรื่องการ์ตูนเข้ามา มุกแพรวพราว ฮาหนักมากตอนแก๊งเด็กม.2/1 ออกจากโรงแล้วยังขำอยู่เลย น้องแบงค์เล่นดีมากแต่เสียใจด้วยใจป้ายกให้น้องต่อไปหมดแล้ว กรี๊ดหนักมากก
  30. Spectre : เดินเรื่องเนิบมาก แต่คงความเป็นบอนด์อยู่ครบ...การต่อสู้ โดนทำร้ายแค่ไหนก็รอด รถ สาว ของเล่นไฮเทค ชอบเรื่องนี้ที่ฉาก + เน้นความรักแบบที่ว่าผู้หญิงที่ไหนจะมาเข้าใจบอนด์ได้ ชอบที่บอนด์ใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้นางเอกมันน่ารักมาก + เอาปมในวัยเด็กมาเป็น points
    Daniel Craig ไม่เคยหล่อเลยในสายตาเรา แต่ภาคนี้ ยิ่งแก่ยิ่งเท่ นางเอกนิ typical English เลย ฟันหน้าต้องห่าง
  31. Mockingjay part 2 : Real or not real??? จริงๆภาคนี้ควรรวมกะ mockingjay part 1 พอแยกเป็น 2 หนังเลยยืดมาก แรกๆเกือบหลับ โดยรวม plain มาก พยายามเน้นดราม่าแต่ก็ไม่สุดอ่ะ แต่ jaylaw ก็เล่นดีเหมือนเคย เอาเป็นว่าใครดูภาคก่อนๆก็มาตามเก็บให้ครบหละกัน
  32. The lobster : ชอบมากกก หนังโคตรแนว ถูกใจคนโสดอย่างเรายิ่งนัก  แค่โสด โลกมันโหดร้ายกะเราถึงเพียงนี้เลยหรือ?!? คนเราถ้าคู่กัน ต้องมีsomething in common? เรื่องนี้หนัง art / symbolic มาก ถ้าใครไม่ชอบ อะไรอย่างนี้ โปรดหลีกเลี่ยง เพราะออกจากโรงมา จะงง 555
  33. Star wars : the force awakens : ไม่ได้เป็นแฟน star war แต่ก็ดูได้เรื่อยๆนะ หนังมันดูเล่าเรื่องแบบเก่าๆ แต่ไม่เชยเท่าไร งี้เรียกว่า Classic ซินะ
มาถึงธรรมเนียมของทุกปี 5 เรื่องที่เราชอบมากที่สุด คือ
อันดับ 1 : KINGMAN
อันดับ 1 : KINGMAN
อันดับ 3 : the imitation game
อันดับ 2 : the imitation game
อันดับ 2 : ANTMAN
อันดับ 3 : ANTMAN
อันดับ 4 : Fast and Furious 7
อันดับ 4 : Fast and Furious 7
อันดับ 5 : Inside out
อันดับ 5 : Inside out
ปีนี้ออกแนวหนัง super hero แหะ
หนังโรแมนติกสุดของปีนี้ .....ไม่มีแหะ ย้อนกลับไปดูแทบไม่มีเรื่องไหนโรแมนติกเลยที่ดู T_T
หนังยอดแย่ปีนี้ที่ดู คือ
หนังยอดแย่ : TED 2
หนังยอดแย่ : TED 2
หนังไทยยอดเยี่ยมปีนี้ คือ
หนังไทยยอดเยี่ยมปีนี้ Freelance
หนังไทยยอดเยี่ยมปีนี้ Freelance
อันนี้หนักใจมาก ชอบทั้ง freelance และเมย์ไหนไฟแรงเฟร่อ แต่ขอให้ freelance หละกัน
ตรงใจกันบ้างรึป่าวสำหรับทำเนียบหนังปีนี้ :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น