26/6/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 26 มิ.ย. 56 Break downtrend line

ขอยกนิ้วให้กับคนเขียนบทให้กับตลาดจริงๆ หลังจากพาตลาดลงไปทำ low ใหม่ที่ 1338.81 แล้วก็เด้งกลับมาจนมาปิด 1424.38 อย่างวันนี้ได้ ท่าทางจะดูละครของคุณพิศาลบ่อย เล่นบทตบจูบมาก T_T

แม้ว่า ATR จะยังไม่ลด แต่สัญญาณต่างๆดูดีขึ้นเล็กน้อย MACD ที่ช้าแต่ชัวร์ยังไม่ตัดขึ้น แต่ Slow stochastic ตัดขึ้นแล้ว (อันนี้ false บ่อยกว่า) RSI pick up ที่สำคัญคือ SET ปิดเหนือ high เดิมกว่าแท่งที่ผ่านๆมา

และเป็นครั้งแรกที่ break downtrend line ได้สำเร็จ
ด่านถัดไป อย่างน้อยต้องกลับไปยืนเหนือ sma200d ให้ได้แน่นๆก่อน
เพื่อลุ้นด่านถัดไป 1450 1500
 
ระยะวีค ถ้าผ่าน 1483 1500 ไปได้ภาพจะงดงามมาก (เหลือเวลาอีกสองวันสำหรับวีคนี้ เวลาคือความเสี่ยง ยิ่งช้าเป้าหมายที่จะกลับเข้าเทรนด์จะยิ่งไกลออกไป)
รอบนี้โชคดีได้ sentiment ตลาดรอบโลกช่วยด้วย หมายถึงเราไม่ได้เด้งมาเดี่ยวๆอ่ะนะ
  • TIPs  แม้จะอ่อนกว่าพวก developed market แต่ก็เด้งมาแรงเหมือนกันวันนี้ ลุ้นให้กลับมายืนเหนือsma200d เหมือนๆกะ SET
 
  • DAX
  • DJIA
พูดมาซะดิบดี คิดร้ายเผื่อไว้บ้าง รอบนี้ไม่รู้เป็นเพราะว่า Window dressing หรือว่า cover position TFEX M series expiry (27 Jun) กันที่ทำให้ตลาดกลับมาได้ ..อยากให้เผื่อใจไว้ดูหลังหมดศุกร์นี้ ทิศทางจริงๆน่าจะชัดเจนขึ้น

สังเกตได้จาก Basis ที่เคยห่างแบบเว่อมากๆ กลับมาเป็นปกติ วีคนี้เทรดกันหนักหน่วงมาก volume TFEX roll over กันเยอะจริงๆ น่าจะทำไปมากแล้วก่อนปิดวันพรุ่งนี้ แต่ทีเด็ดอยู่ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของวันพรุ่งนี้ โปรดติดตาม
แรงขายฝรั่งเบามือลง แต่ก็ยังไม่ได้กลับมาซื้อ เห็นค่าเงินบาทแล้วก็อ่อนใจ คงต้องอาศัยแรงในประเทศเป็นหลัก
 สรุป ผ่าน downtrend ได้ ขออย่าให้เป็นเบรคหลอกแล้วตัดกลับลงมาอีกหละ เน้นผ่านไปทีละด่าน อันนี้พูดทั้งหมดจากกราฟล้วนๆ timeframe สั้นๆ ยังไม่นับความเสี่ยงด้าน Econ ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
  • China credit crunch / China economic slowdown
  • QE taper off
  • Thai GDP cut 
  • Q2 earning season
  • 2.2 trillion delay? 
  • Bond yield still remain high
  • .........
ที่สำคัญ คือ มองว่าหมด Window dressing หรือว่า cover position หลังจากนี้เริ่มต้นเดือนใหม่ น่าจะเป็นของจริงมากขึ้น.....หวังว่า 1338 จะเป็น bottom สำหรับ correction รอบนี้นะ

23/6/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 23 มิ.ย. 56 When liquidity dry,.....

เหตุการณ์ใหญ่ที่เปลี่ยนภาพของการลงทุนที่เกิดขึ้นในระหว่างสัปดาห์ก็คือ
  • วันที่ 19 มิ.ย. US times FED ออกมาช็อคโลกต่อจากที่เคยโยนหินถามทางนักลงทุนในครั้งก่อน โดย Bernanke ย้ำต่อในทำนองที่ว่าจะ QE taper off โดยเริ่มจากการลด size ของการทำ bond repurchase ลง จากเดิมทำเดือนละ 85,000 อาจจะเหลือเดือนละ 65,000 คาดว่าจะเริ่มก.ย. และจะหยุดการซื้อลงประมาณกลางปี 2014
  • และมากไปกว่านั้น คือ Obama ก็มาพูดในทำนองที่ว่าหมดวาระของ Bernanke คนที่เริ่มใช้ QE ที่ทำให้สหรัฐดูดีขึ้นนี่แหละ จะไม่ต่อวาระหลังจากที่วาระกำลังจะหมดลงในเดือนม.ค.
  • ยังโชคดี ที่ยังคง statement เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ almost 0% ไว้ ตราบใดที่ unemployment rate ยังมากกว่า 6.5% และ inflation ยังไม่เกิน 2.5% โดย FED มองว่ายังอีกนานนนนนกว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 
อย่างที่เคยเขียนในบล็อคนี้ตอนก่อนๆว่า QE เหมือนยาเสพติด นักลงทุนแค่ไม่ได้ QE ก็โวยวายกันแล้ว แต่นี่จะได้ dose น้อยลงแถมโดนบังคับเลิกในอนาคตอีก ภาวะเสพติดสภาพคล่องส่วนเกิน ผลพวงจะลุกลามแค่ไหน....จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ ปัญหาหนี้ยุโรป ไม่ว่าจะเป็นกรีซ PIIGs เราก็รอดมาได้เพราะธนาคารกลางของประเทศต่างๆอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปในระบบนี่แหละ แต่สภาพคล่องตรงนี้จะหายไป เราจะรอดกันมั้ยอ่ะ ><"

เมื่อ QE taper off แน่นอน ผลที่ตามมา คือ
  • เงิน $ แข็ง ซึ่งแน่นอนไม่เป็นผลดีต่อราคา risky asset/ commodities ...จากเดิมเวลามี excess liquidity ก็จะมีเงิน flows เข้ามาในสินทรัพย์ในตลาด emerging countries โดยเฉพาะแถบเอเชียที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เติบโตดี รวมถึงทองคำที่เป็น inflation hedge ต่อไปนี้จะไม่มี excess liquidity แน่นอนว่าเงินก็ไหลกลับทิศ ...ตลาดอย่างเกาหลีใต้และ TIPs นี่ก็โดน sell off จัดหนักสุดสำหรับรอบนี้...นี่ขนาดยังไม่แน่ชัดว่าศก.อเมริกาฟื้นจริง เงินยังกลับขนาดนี้ ถ้าฟื้นจริง ท่าทางจะมีการดูดกลับไปอีกมาก
  • Bond yield กระฉูด จากเดิมมีแรงซื้อจาก QE คอยกด yield ไว้ แม้ตอนนี้ยังไม่ลด แต่โลกแห่งการลงทุน market efficiency คน take expectation ของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไปในราคาแล้ว ตอนนี้ US gov bond yield ปรับตัวขึ้นมาสูงสุดในรอบ 22 เดือน German bunds ก็ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือน ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตหนี้ยุโรปรอบก่อน 2 assets นี้จัดเป็น safe haven ให้กับนักลงทุน แต่รอบนี้ต่างกันออกไป นอกจากนี้ตลาดตราสารหนี้มีขนาดใหญ่กว่าตลาดตราสารทุนมาก เวลา sell off กันที ผลกระทบหนักหน่วงมาก อีกอย่าง เราเห็น bond yield ขยับนิดเดียว แต่จริงๆเป็น price มันขยับมากๆ 
   
  •  Earning Yield Gap ลดลง จากเดิม bond yield ต่ำๆ คนก็ยอมจ่าย premium ในหุ้นเยอะๆ ทำให้ PE สูงขึ้น เมื่อ Bond Yield ราคาสูงขึ้น Earning Yield Gap ก็แคบลง PE ก็จะลดลงตาม
 


*PE อันนี้เป็นแบบ trailing 

ช่วงนี้คงเป็นช่วงปรับ asset allocation กันทั่วโลก ต้องวางกลยุทธ์ใหม่ทั้งบอนด์และหุ้น แถมด้วยแรง panic ผสมทำให้ magnitude ของ volatility สูงขึ้นมากๆ....นอกจากนี้ยังเจอแรง ETF redemptionอีก จำตอนทอง crash ตอนเม.ษ.ได้มั้ย ที่เป็นผลจาก paper gold เป็นหลัก ตอนนี้ทั้งตลาดหุ้นและตลาดบอนด์ทั่วโลกสภาพก็ไม่ต่างจากตอนนั้น เมื่อคนมี redeem ยังไงก็ต้องโดนบังคับขาย
กอง ETF ใหญ่ที่ลงทุนในหุ้นไทยก็กองนี้เลย iShares MSCI Thailand (THD)  กลางคืนเราก็ดูราคาเคลื่อนไหวประกอบได้ ไม่แน่ใจว่าเป็น leading or lagging indicators ต่อ SET share prices แต่ถ้าลงมากๆ เค้าเจอ redeem เยอะๆ แน่นอนว่าน่าจะเจอแรงขายใน SET สำหรับวันถัดมา

กลับมาดู SET บ้าง ภาพตลาดยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม RSI ยังต่ำ ATR ยังสูง แถมยังปิดต่ำกว่า sma200D ดีอยู่ 2 อย่าง คือ 1) SET ยังไม่ทำ low ใหม่ 2) แม้จะเจอเรื่อง taper off ซึ่งเป็น systematic risk SET ก็ทำแข็งขืนทำแท่งเขียวได้สวนทางกับเพื่อนบ้าน 

เดาเล่นๆ ถ้ายังไม่ทำ low ใหม่ต่ำกว่า 1350 ก็อาจจะเล่นในกรอบนี้ไปก่อน 1350-1430 เต็มที่ก็ 1465 ตราบใดที่ยังอยู่ในกรอบ downtrend และไม่มี indicator ใดเป็น signal ให้ buy เต็มที่ก็แค่เด้ง ความเสี่ยงยังมีอยู่มาก มีคนบอกว่าถ้าตลาดลงจาก peak 20% ถือว่า entry bear market ชัดเจน ของเรากว่าจะถึงจุดนั้น คือ 1320 แน่นอนว่าถ้ามี low ใหม่ อีก 30 จุดคงไม่ยาก ><"

พึงระลึกไว้เสมอว่าตอนนี้ฝรั่งยังจัดหนักอยู่ ถ้าแรงขายตรงนี้ไม่เบาลง SET ไปต่อได้ยากมากๆ

ตอนนี้ BOT คงต้องทำงานหนักหน่อย บาทอ่อนค่าซะเหลือเกิน
 วันพฤหน้า 27 มิ.ย. M series ก็จะ expired หละ ตอนนี้หรั่งเป็น net short 6350 สัญญา เดาว่าช่วงนี้เค้าน่าจะเริ่ม roll over ไป U กันบ้างแล้ว เพราะว่าเห็นยอดซื้อขายเยอะกว่าปกติ ส่วน institution ซึ่งขัดใจมากยอดรวมกะ Prop ทำให้ไม่เห็นสถานะที่ชัดเจนว่า prop ถือ Long อยู่กี่สัญญา ตอนนี้ spread จากห่างมากๆ เริ่มแคบลง เดาว่า prop ที่ทำ arbitrage น่าจะเริ่ม cover position ด้วยการซื้อหุ้นแล้วก็ short future กลับ เกมนี้น่าติดตามปิด TFEX ประจำไตรมาสทีไร ชอบมีอะไร surprise ทุกที ยังไม่นับศุกร์นี้ที่เป็นวันปิดไตรมาสที่ 2 และเป็นวันปิดครึ่งปี ไม่รู้จะมีแรง window dressing มั้ย แต่คงเหนื่อยหน่อยเพราะ QTD ตอนนี้ SET -10.29%
เขียนยาวเลยสำหรับวีคนี้ ขอให้ปิดสัปดาห์ ปิดเดือน ปิดไตรมาส ปิดครึ่งปีกันอย่าง happy คะ :)

18/6/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 18 มิ.ย. 56 Thailand only

จากความเดิมตอนที่แล้ว ใช่เกือบหมด เว้นตอนจบ 555...ที่ว่าน่าจะเด้งไปได้ถึง 1490-1500 วันนี้ทำได้แค่ 1492.28 ก่อนเกิดดราม่าปิดลบ 43.62 จุด มาปิดที่ 1427.42 จาก high ของวันนี่ลงมาถึง 64.86 ปิดซะแดงเต็มข้อ ATR ลดได้แค่วันเดียวพุ่งต่อ สัญญาณต่างๆยังไม่เปลี่ยน...น่าสังเกตว่าวันที่ตลาดขึ้น vol น้อย แต่พอวันตลาดลงนิอุ่นหนาฝาคั่งมาก
ตลาดไทยช่วงนี้โหดมาก ดราม่าสุดๆ ลากขึ้นไปให้ดูผ่านแนวต้าน ก่อนเกิดเหตุเชือดตอนหลัง 3 โมง โรยตัวอย่างสวยงาม อย่างกะใครลุกช้าจ่ายตังค์
ที่น่าเสียดาย คือ SET เกือบจะ break down trend ได้สำเร็จ แต่คุณพลาดสิทธิ์นั้นไปแล้ว (ระยะ day นี่ต้องดูสิ้นวันจริงๆ T_T)
ส่วนระยะวีค ทำแท่งแดงต่อเนื่อง ถ้าวีคนี้กลับไป uptrend ไม่ได้ หนทางจะยิ่งห่างไกลออกไป
รอบนี้เราลงมาจาก high ประมาณ 300 จุด ใช้สิทธิ์เด้งไปถึง 150 จุด หมดโอกาสเด้งต่อแล้ว? วัดใจมากมาปิดคลอเคลียแถวเส้น sma200d อีกแล้ว
แนวรับก็ลงแถว 1420 1350 ก่อนถ้าหลุดไปกว่านี้จะหลอนมาก เป้าเดี๋ยวนี้ต้องให้ไกลจัด ตลาดเหวี่ยงใน range ที่กว้างมากๆๆๆๆๆ แนวต้านก็ดูตาม ema ต่างๆเป็นลำดับไป
ที่น่าแปลกใจมากกว่าในวันนี้ คือ ตลาดไทยเป็นตลาดเดียวที่ดราม่า! ลงแบบงงๆอยู่คนเดียวนี่น่ากลัวนักแล
หลังจากตลาดเทก็มีเหตุผลต่างๆนานามาสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น
  • จำนำข้าว เสี่ยงยุบสภา
  • รายใหญ่ขาย SBL เยอะ 
  • ป๋าเบนจะไม่ต่อวาระ 
สุดท้ายๆสุด มันก็แค่เป็นการหาเหตุมาอธิบายผล It's all in chart...เอาเวลาหาเหตุมาทบทวน position and take action จะดีกว่า

และเมื่อยอดสิ้นวันออกมาก็เป็นว่าฝรั่งกลับมาขายต่อ แต่กลับมา L index future บ้าง สถานะโดยรวมยัง S อยู่เยอะ เดาว่าฝรั่งที่มา L เพราะอาจจะ
  • ปิด Short position
  • Roll over ไป U
  • Spread trading เพราะ basis ห่างมากกกกกกก 
 
บอกตามตรงไม่เคยเห็น future basis ห่างขนาดนี้มาก่อน SET50-M13 ห่างสูงสุดถึง 15 จุด SET50-U13 ห่างสูงสุดถึง 21 จุด Bearish ไปไหน (ไม่รู้ panic แย่งกัน short / stop order กันแน่)...เครื่องมือทางการเงิน ทำให้คนสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เราต้องดูหลายๆอย่างประกอบกัน T_T

ฝรั่งขายสอดคล้องกะค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอย่างไวอีกแล้ว (หมดแรง BOT แทรกแซง?) อย่างที่บอกรอบนี้ถ้าฝรั่งไม่หยุดขาย คงไปต่อได้ยาก และค่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้เฝ้าระวังตลาด....สุดท้าย ถ้าเป็นว่าฝรั่งขายไทยแลนด์เพราะปรับ asset allocation ส่วนตัวเดาว่าคงไม่กลับมาซื้อใหม่ไวแน่ๆ เว้นมีอะไรเป็น catalysts ใหม่ๆ
บางคนอาจจะมองว่าตลาดลงมาปิด gap ก่อน
แค่อยากบอกว่า อย่าลืมภาพใหญ่ - Trend ของตลาด / ดูผู้เล่นที่จะกำหนดทิศทางของตลาด ส่วนตัวยังเชื่อในพลังของ foreign อยู่...ส่วนระบบใครจะเล่นเด้ง swing trade อะไรก็แล้วแต่

ขอให้มีสติในการลงทุน เราเชื่อในการวางแผน เพราะตอนที่เราคิดแผนมักจะไม่วอกแวกเหมือนเวลาอยู่หน้ากระดานเทรด และเมื่อลงสนามจริง ก็อย่าลืมทำตามแผน ทำตามระบบของแต่ละคนคะ :)

16/6/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 16 มิ.ย. 56 Wait and See

SET มาถึงจุดวัดใจเลย หลังจากที่ลงจาก high ที่ 1649.77 ไป low ที่ 1351.95 แล้วสุดท้ายมาปิดที่ 1465.27 จาก high เราลงกันไปประมาณ 297.82 จุด (-18.05%) เราก็เด้งกันมา 113.22 จุดจาก low (8.38%)
จากกราฟ หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า 1351.95 bottom yet? เด้งมาอย่างนี้ เราตกรถแล้ว? โดดขึ้นรถตอนนี้ทัน? คนขายไปแล้วก็อยากซื้อคืน คนที่ยังไม่ได้ขายตอนก่อนลงก็คงอยากขาย คนหวังเล่นเด้งก็มีมาก คนรอช็อตต่อก็มีเยอะ ตลาดเป็นเรื่องของจิตวิทยาหมู่จริงๆ แถมช่วงนี้อีโมแรง panic ผสมด้วย ทั้งความกล้าและความกลัว เลยยิ่งเหวี่ยงกันไปใหญ่ gap up gap down เต็มไปหมด ปิด gap ด้วย gap อีกต่างหาก
SET สามารถกลับมายืนเหนือ sma200d ได้ แล้วก็กลับมายืนเหนือ neckline ได้ แท่งเขียวสองแท่งนี้มันช่างน่าลุ้นจริงๆ แต่กลับไปดู chart ระยะ day SET ก็ยังไม่ได้สามารถ break downtrend ได้
ระยะ week ยังกลับไปยืนเหนือ uptrend ไม่ได้
ดูอย่างใจพยายามไม่ biased ถ้าเด้งจริงรอบนี้อาจจะไปได้ถึง 1490 1500 ก่อนก็เป็นได้ จากนั้นดูอีกทีว่ายืนได้มั้ย เป็นการเด้งเพื่อไปทำไหล่ขวา หรือ ว่าเด้งจริงจัง...ส่วน downside ก็ให้ไว้ที่ 1410 1350 ก่อน 
ดูจาก TFEX - สัญญา M13 ใกล้จะหมดอายุสิ้นเดือนนี้หละ ตอนนี้ยังเทรด discount อยู่ 2.47 จุด ส่วน series ถัดไป U13 ตอนนี้ M13 เทรด premium over U13 อยู่ 5.8 จุด ....U13 นี่ถือว่า trade discount ถึง 8.27 จุด Bearish ใช้ได้เลย
ผู้ที่ถือสถานะ Short เยอะตอนนี้ก็เป็นฝรั่ง 

ตลาดเพื่อนบ้างเองก็ไม่ไปทางเดียวกัน JKSE ดูดีขึ้นมาหน่อย แต่ PHCOMP ดู weak จัง (ไม่รู้เกี่ยวกับที่อินโดขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับแต่ปี 2011 แต่ทั้งสองก็เด้งได้จากแนวที่ควรเด้งพอดี ต้องดูต่อว่าจะไปยังไง
DJIA sideway ในกรอบรอเลือกทางมาก EMA50D ไม่หลุด แต่ก็ไม่ไปไหนซะที
ที่น่าจับตา คือ ค่าเงิน ไหนใครว่าเลิก QE เงินกลับเข้า USD กลับกลายเป็นว่า dollar index อ่อน แต่เงิน JPY แข็งค่าขึ้นต่างหาก ส่วนเงินออกจากบาทได้แรงช่วยจาก BOT แทรกแซง ต้องดูว่า 30.5 เค้าพอใจยัง แต่เดาว่าต่ำ 30 คงยาก เพราะก็เจอฝั่่งคลังมาปรามๆไม่อยากให้บาทแข็ง สรุปง่ายๆ ความต้องการของ BOT ก็คงแค่ไม่อยากให้ผันผวนเร็วเกินไปอย่างช่วงก่อน แล้วก็คงกลัวว่าถ้าทะลุ 31 แล้วจะไปไกล
Bond yield ก็ยังไม่ลง เรื่อง Risk-off / capital flight ยังต้องจับตาต่อว่าจะมีแรงปะทุมาอีกรอบมั้ย
ฝรั่งก็ยังไม่กลับมาซื้อหุ้นไทยจริงจัง นับ 3 ก็ต้องรอต่อไป ...แถมรอบนี้อย่างวันศุกร์ที่ดีดกลับมาเยอะๆก็เป็นกองทุนซะมาก เดาว่าน่าจะเป็นเงินทริคเกอร์ฟันด์ที่ตั้งกันมาซะเยอะแยะเชียว 

โอกาสขึ้นหรือลงต่อตอนนี้พอๆกัน ขึ้นไปก็ด่านยุบยับ ลงต่อก็ดูน่ากลัว ทางโล่งมากด้านล่าง...Wait and see mode กันไปก่อน เดาว่าหลัง FED 18-19 นี้คงได้คำตอบว่าตลาดจะไปทางไหน QE taper off คงมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งคงเป็นปัจจัยที่เลือกทางให้กับตลาดรอบนี้ ท่ามกลาง volatility อันสูงปรี๊ด :)

14/6/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 13 มิ.ย. 56 Reversal point?

ความเดิมตอนก่อนหน้า ที่ให้แนวรับไว้ สงสัยเบามือไป หลุดมันทุกแนว ตลาดช่วงนี้ผันผวนสุดๆไปเลย เหวี่ยงขึ้นลงไปกลับนี่เป็นร้อยจุด ดูอย่างวันนี้เป็นต้น อย่างกะนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ความเสี่ยงในการถือข้ามมีตั้งแต่ข้ามวัน ยันข้ามปิดเที่ยง
กลับมาดูภาพ SET กันบ้าง ดู ATR ซิ กระฉูดมาก แซงหน้าช่วง correction ตอนเม.ษ.ไปแล้ว วันนี้ SET ปิดต่ำกว่าเส้น SMA200D ซึ่ง SET ไม่ได้ลงมาเล่นแถบเส้นนี้นานมาก ต้องดูย้อนไปถึงช่วงต้นปี 2012 โน่น RSI ทำ new low ต่อ (พยายามจะหา divergence ให้แต่ยังไม่เกิด) 

แต่ที่น่าสนใจ คือ SET ทำแท่งเขียว แล้ว volume วันนี้ 85,000 ล้านบาท เปิดด้วย GAP จะไปปิด GAP หรือไม่? 1422 Target ปิด GAP พอดี แต่ถ้ายืนเหนือ SMA200D ใหม่ได้นิ่งๆภาพอาจจะเปลี่ยน....

ที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือ ยอดซื้อขายสุทธิ วันนี้เป็นวันแรกที่ฝรั่งกลับมาเป็น net buy 1394 ล้านบาท หลังจาก 14 วันทำการหลังสุดขายไป 51272 ล้านบาท...แต่วันเดียวบอกอะไรไม่ได้ รอ 3 วันตามสูตรนะจ๊ะ (หรั่งยัง short สะสมอยู่ -5321)

กลับมาดูว่า ทำไมหรั่งถึงกลับมาซื้อ รอบนี้ currency war - capital flight เป็นตัวกำหนด movement ของ market รอบนี้ มาดูค่าเงินบาทกัน เห็นได้ว่า 31 ไม่ใช่ด่านง่าย แบงค์ชาติเริ่มเข้าแทรกแซง ณ level นี้ ถ้าค่าเงินกลับมามีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น แรงขายจากต่างชาติก็น่าจะลดลงตามไปด้วย และถ้ายิ่งเค้ามองเทรนด์จะกลับมาเป็นแข็งค่า ก็อาจจะมีแรงมาเข้าซื้อหุ้นไทยก็เป็นได้
แต่อย่างที่เคยบอกไว้ว่า one day doesnt make a trend เรายังตัดสินไม่ได้หรอกว่า SET วันนี้เป็น reversal point หรือไม่ เพียงแต่ให้เริ่ม cautions มากขึ้น

ถ้าเป็น trend follower - แนวโน้มตลาด ยังไม่เปลี่ยนจาก down trend ภาพ Topped ยังอยู่

แม้จะเด้งได้สวยจากแนว 1350 ก็ตาม
ส่วนปัจจัยรอบด้าน เพื่อนบ้าน TIPs ยังไม่ฟื้น
PHCOMP มา test SMA200D - เด้งตรงนี้น่าจะช่วย TIPs ได้
JKSE ก็เช่นกัน มา test SMA200D  เด้งตรงนี้น่าจะช่วย TIPs ได้
ปัจจัยสนับสนุนอีกอย่าง คือ Dollar index ที่ false break ตอนนี้ลงมาต่ำ SMA200D น่าจะช่วยเอื้อต่อ risky asset?
 ถ้าเป็นแต่ก่อนตรงไปตรงมาคงใช่ แต่ตอนนี้เป็น capital flight ขอดู USDJPY เป็นหลักก่อนหละกัน ถ้ายิ่งแข็ง คนก็ยิ่ง reverse carry trade มาเทขายบ้านเราอีก ><
สรุป ถ้าลุ้นไปปิด Gap 1422 ก็น่าลุ้น แต่ปิดแล้วไงต่อไม่รู้ ...เทรนด์ขาลงยังไม่เปลี่ยน ATR ไม่ลด เราก็คงจะเจอโหมดรถไฟเหาะกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ คลื่นลมยังไม่สงบ ...ขอลุ้นค่าเงินก่อนเป็นหลัก เดาว่า SET จะไปต่อได้ก็ต่อเมื่อเงินบาทมีเทรนด์แข็งค่า ถ้าฝรั่งซื้อเกินหลักพันล้าน 3 วันติดก็ตาม ส่วนถ้าสั้นๆ ผ่านระบบสายสิญจน์ของพี่ที่เคารพได้ ก็น่าจะเป็น short term trading ได้
Time frame and style แต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็จัดไปตามถนัดคะ ถ้าไม่รู้ว่าจะทำอะไร ดูไม่ออก งงๆ มึนๆ ก็อยู่เฉยๆ ดีสุด :)