20/10/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 20 ต.ค. Relief rally

จากตอนที่แล้ว ที่ลุ้นให้ Break downtrend ดูเหมือนว่าตลาดจะทำได้สำเร็จนะ
แต่ถ้าตีอีกเส้นนึง ปิดวัดใจมาก ขอให้เบรค flag ไปให้ได้หละกัน
รอบนี้ สัญญาณมาดูดีไงก็ไม่รู้ SET ค่อยๆไต่มา ปรับฐานเป็นระยะๆ จนในที่สุดกลับมายืนเหนือ sma200D ได้ แถม Volatility ค่อย RSI ค่อยๆสูงขึ้น MACD ยังตัดขึ้นอยู่ในเกณฑ์เหนือ 0
หวังว่าการตัดขึ้นมาเหนือ sma200d จะไม่ false เหมือนรอบก่อนนะ ขอเห็นรอบยาวๆหน่อย
 อย่างน้อยไปเทส previous high ให้ได้ก่อน 1495 1520

ก่อนจะลุ้นเป็น W shape
หุ้นมันไม่ขึ้นทางเดียวลงทางเดียวตลอด ขอให้ภาพใหญ่ยังรักษา trend นี้ไว้ให้ได้หละกันนะ
รอบนี้ตลาด DM ก็ดูเหมือนจะ outperform EM อีกแล้ว สังเกตได้จาก SP500 และ DAX นิ ATH แล้ว แต่ SET ยังอีกห่างไกล
 
ข่าวดีที่ดันให้ตลาดกลับมาสวยงามอย่างนี้ก็คงเป็นเพราะ Relief rally จากการที่ Obama ยกเลิก Partial government shutdown และกลับมาเปิดจนถึงวันที่ 15 ม.ค. ปีหน้า และ เลื่อน Debt ceiling ไปจนถึง 7 ก.พ. ปีหน้า ....ตามคาด ตกลงกันได้ใน last minute ตลอด

นอกจากนี้ตลาดก็คาดการณ์กันว่า Tapering off คงจะไปเริ่มมี.ค. ปีหน้าเลย จริงๆ FOMC เหลือการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ คือ 29-30 ต.ค. และ 17-18 ธ.ค. ซึ่งรอบเดือนต.ค. คาดว่าคงไม่ทำแน่ๆแล้วเพราะพอเกิด Partial government shutdown ไป ตัวเลขศก.ที่ FOMC ใช้ประเมินก็ออกช้าไป อีกทั้งการชลอตัวของศก.ในช่วงที่รัฐบาลปิดไป FOMC ก็คงจะต้อง take into account ในจุดนี้ เพราะการ Tapering off นิ FOMC คงจะกล้าทำเมื่อมั่นใจจริงๆว่าเศรษฐกิจฟื้น ก็เหลือไปลุ้นในช่วงธ.ค. บางคนก็คาดว่ารอให้ผ่าน deadline debt ceiling ในเดือนก.พ. ไปก่อนแล้วค่อยว่ากันว่าจะทำหรือไม่ทำ นั่นหมายความว่าถ้าไม่ทำภายในปีนี้ Bernanke ก็จะจบสมัยอย่างสวยงาม แม้จะเป็นคนเริ่ม QE แต่การจบคงไปจบในสมัยของ Yallen ซึ่งก็ต้องไปลุ้นกันอีกทีนึงว่า Yallen จะดำเนินนโยบายอย่างไร

อย่างที่บอกไปว่า DM น่าจะ outperform EM ต่อ ส่วนนึงก็เพราะพื้นฐานทางเศรษฐกิจของปท. EM อ่อนแอลงในขณะที่ DM แข็งแกร่งขึ้นด้วยส่วนนึง การที่ไม่มี Excess liquidity จาก QE มาเหมือนก่อนก็คงทำให้ valuation ไม่ได้โดนให้ Premium เหมือนเช่นกัน ....จุดนึงที่น่าสังเกต คือ Flows ไปแล้วเหมือนจะไปลับ ที่ออกไป 100,000m คงได้แต่ร้องเพลงรอว่าเมื่อไรหนอที่เธอจะกลับมา เพราะขนาดมีข่าวดีขนาดนี้ฝรั่งยังไม่กลับมาซื้อหุ้นไทยต่อวันหนักๆเหมือนช่วงก่อน คือ ช่วงนี้ไม่ขายจริง แต่ซื้อก็ซื้อน้อย....รอนับ 3 อย่างเป็นทางการ ฝรั่งก็ไม่ยอมให้นับซะที ซื้อขาดไป 5-6 ล้าน หยวนๆ ดีมั้ย :P

รอดูค่าเงินบาทด้วย ลุ้นให้ทะลุ 31 ลงมา เผื่อจะมี flows ไหลเข้ามาบ้าง...ลอง run correlation ของ SET VS USDTHB ดูในช่วงตั้งแต่ต้นปี 55 ถึงปัจจุบัน ค่า Correlation ของ USDTHB กะ SET อยู่ที่ -0.26
กลับมาดูแนว FIBO ต้านสำคัญน่าจะอยู่แถวๆ 1500 1520 คล้ายๆด้านบน
ลองมาดู member ของ SET บ้าง ลองตั้ง criteria ง่ายๆ พบว่าส่วนใหญ่ MACD ตัดขึ้นแล้ว แต่หุ้นที่ Strong จริงๆ นี่ยังไม่เยอะ
หวังว่าจะมีหุ้นแข็งแกร่งเข้าคลับมากขึ้น จะได้เสริมแรงให้ SET ได้ไปต่อได้ :)

13/10/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 13 ต.ค. Break downtrend line?

จากความเดิมตอนที่แล้ว ดราม่าตลาดอเมริกายังไม่จบ Government Partial shutdown ยังคงอยู่ แต่ดูมีพัฒนาการขึ้นนิดหน่อย คือมีข้อเสนอจาก GOP นำโดย John Boehner ในการขยายเวลา debt limit จากเดิม 17 ต.ค. ไปเป็น 22 พ.ย. และทาง GOP กะ Obama ก็เริ่มเจรจาต่อรองกัน ทาง GOP เองอยากให้รวม policy condition ที่จะแยก spending bill ออกมาจะได้เลิก government shutdown แต่ทาง Obama ยังไม่ยอม ก็เลยยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ

ใน Senate 100 เสียงเป็นของ Democrats 54 เสียง ฉะนั้นในการโหวตเพื่อผ่าน bill จะต้องได้เสียงของ Republicans อย่างน้อย 6 เสียงเพื่อให้ได้มากกว่า 60 เสียงในการโหวตผ่าน อย่างร่างของนาย Reid (Democrats) ที่เพิ่งยกมาให้ raise debt limit ไปสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2014 ก็เพิ่งตีตกไปเมื่อคืน เพราะเสียงไม่ผ่าน 

ถ้าหลังจาก 17 ต.ค. รัฐบาลสหรัฐจะมีเงินเหลือเพียงแค่ 30 billion$ ไม่นับรวมรายได้ที่จะเข้ามา และอาจจะเริ่มไม่สามารถจ่ายเงินได้ในช่วงวันที่ 22, 31 ต.ค. อันนี้เป็นที่มาจาก Congreesional Budget Office

จริงๆแล้วภาระหนักอึ้งของรัฐบาลสหรัฐว่าจะ default หรือไม่คงอยู่ที่วันที่ 15 พ.ย. มากกว่า ที่จะมีเงิน coupon payment ทีจะต้องจ่าย 31 billion$ ซึ่งหากจ่ายไม่ได้ก็ต้อง default ไปตามระเบียบ...ก็ต้องตามดูต่อไปว่าเกมการเมืองของเมกาจะจบออกมาในรูปแบบไหน 

แต่ข่าวดีอีกหนึ่งอย่างของตลาดหุ้นก็คงจะเป็น Janet Yellen ได้เป็น the first FED chairman ที่เป็นผู้หญิง โดยจะรับตำแหน่งต่อจาก Ben Bernanke ซึ่งแน่นอนว่าตลาดน่าจะชอบที่ Yellen ได้ขึ้นมารับตำแหน่งต่อจาก Bernanke เนื่องจากนางค่อนข้างจะเลิฟ QE ค่อนข้างจะ Dovish มากๆๆ เน้นเรื่อง unemployment เป็นหลัก ก็ต้องมาดูกันต่อว่าจากที่จะ Taper off ในปีนี้จะเป็นอย่างไรต่อ

กลับมาดูที่ SET กันบ้าง MACD ตัดขึ้นแล้ว อยู่ในโซน + Volatility ค่อยๆลด แต่ยังไม่ผ่าน SMA200D ซึ่งน่าจะเป็นต้านสำคัญ ถ้าผ่านได้ทางข้างบนนี่โล่งเลย
ที่น่าสนใจ คือ SET จะสามารถผ่าน Downtrend นี้ไปได้มั้ย วันศุกร์มาติดตรงนี้พอดี ถ้าผ่านได้ทุกข์โศกในช่วงที่ผ่านมาน่าจะค่อยจางลงหน่อย
น่าลุ้นไปถึง previous high เดิม
และลุ้นรักษาภาพให้เป็น uptrend ไว้ให้ได้
Foreign กลับมานับ 2 รอนับ 3 ก็ตามน้ำได้
รอบนี้ดีหน่อย ค่าเงินค่อนข้างนิ่งเป็นใจ
สรุปตลาดน่าจะ volatile ไปตาม news flow มากๆช่วงนี้ดูได้จากตลาดเมกา
ส่วนตลาดไทย ก่อนอื่นต้องมาลุ้นก่อนว่าจะ Break downtrend line ได้มั้ย ก่อนเราจะ dream high ^^"

รีวิว Sky 100 Observation Deck ฮ่องกง

ใครชอบชมวิวจากที่สูงบ้าง เราเป็นคนที่ชอบมองวิวจากที่สูงมาก รู้สึกว่าภาพที่มันทอดจนสุดสายตาเราออกไปทำให้ช่วงเวลาที่เรามองมันไม่ต้องคิดอะไรไปมากกว่าการชมความงามของเมืองนั้นๆ ซึ่งจากจุดๆเดียวเราสามารถเห็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง เห็นความเจริญของเมืองนั้นว่าพัฒนาไปไกลมากแค่ไหน วิวพระอาทิตย์ตกดิน หรือ แสงไฟจากตึกใครจะว่ามองจากที่ตรงไหนก็เหมือนกัน แต่เราว่ามันไม่เหมือนนะ ต่างเมือง ต่างจุดที่มองก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
 มีอีกหนึ่งที่มานำเสนอสำหรับจุดชมวิวในฮ่องกง นอกเหนือจากที่ยอดฮิตอย่าง The peak ....Sky 100 Observation Deck เพิ่งเปิดมาตอนปี 2011 นี่เอง อันนี้เป็น website ที่ชื่อว่า Sky 100 ก็เพราะเป็นชั้นที่ 100 ของตึก International Commerce Centre (ICC)

การเดินทางไป Sky 100 ก็ลง MTR สถานี Kowloon ออก Exit C ได้เลย จริงๆตรงนี้ก็เป็นห้าง Elements นั่นเอง สำหรับห้าง Elements นั้นแบ่งออกเป็น 5 โซนตามธาตุ จะเดินไป Sky100 ก็เดินไปตรง Metal Zone ทางขึ้นจะอยู่ชั้น 2 สังเกตป้ายนอกทางจะมีป้ายชี้ไป Sky100 ตลอดทาง ทางเดินไป Sky 100 เป็นทางเดียวกะโรงแรม The Ritz-Carlton ซึ่งคนที่พักที่ The Ritz-Carlton ก็จะได้ชมวิวแบบที่ Sky 100 เหมือนกัน

สำหรับบัตรเข้าชม จะซื้อไปก่อนใน website ก็ได้ แต่เนื่องจาก plan เราไม่ค่อยแน่นอนเราก็เลยไปตายเอาดาบหน้า ไปซื้อที่ทางเข้าเลย ค่าตั๋วก็ 168HKD ซึ่งจะมีรูปที่ระลึกให้หนึ่งใบใบเล็กๆด้วย ตอนซื้อตั๋วเค้าจะให้กระดาษ 1 ใบสำหรับไปแลกรับรูป

ก่อนถึงทางเข้าก็จะมีการฉายภาพประวัติศาสตร์ของฮ่องกงในปีต่างๆ
 
 
โชคดีมากวันที่ไปคนไม่เยอะเลย เป็นวันศุกร์ตอนเย็น แต่ไม่แน่ใจว่าวันอื่นคนเยอะหรือเปล่า อันนี้เป็นอุโมงค์ทางเข้า ไฟสวยดี
ผ่านจากจุดนี้ไป เราจะเข้าไปขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่ 100 กันคะ ในลิฟต์ทำได้สวยงาม ให้บรรยากาศว่าขึ้นไปที่สูง ในลิฟต์เองก็จะมีบอกระดับการไต่ความสูงของลิฟต์ตลอด จนสุดท้ายเราก็ถึงที่หมาย ณ ความสูง 393 เมตร
 
พอออกจากลิฟต์ไป ชอบตรงอุโมงค์ทางเข้าตรงนี้ มันจะเหมือนจำลองฮ่องกงไว้เป็นโมเดล
 
 
จากนั้นก็เดินชมวิว 360 องศาที่นี่ โซนตรงหน้าเราเลยจะเป็น victoria harbour และตึกต่างๆ  จริงๆตรงนี้ถ้าอยู่ถึงตอนกลางคืนนี่คงได้ดู symphony of light ชัดเจนเปลี่ยนมาก
 
 
มีรูปประกอบให้ดูว่าตึกไหนเป็นตึกไหน
ตึก ICC เป็นตึกที่สูงที่สุดในฮ่องกง และสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก
จริงๆตึกนี้สูง 484 เมตร แต่ ณ จุดที่เราอยู่สูง 393 เมตร
มีกล้องส่องทางไกลให้ชม
ที่ดินมีน้อย เลยเป็น concrete jungle อย่างที่เห็น
 
 เดินมาอีกด้านอันนี้จะเป็นโซนทะเลหละ ชอบตรงนี้สุดเลย รู้สึกว่าเป็นฮ่องกงจริงๆ ให้ความรู้สึกเกาะ เรือสินค้าเยอะๆ สมกะเป็นเมืองที่โตมาจากการค้า
 
 
มุมเก๋ๆให้นั่งถ่ายรูป
 
 
 
ตรงร้านขายของที่ระลึกมีโปสการ์ดขายด้วย ซึ่งสามารถส่งได้เลย โดยไม่ต้องติดสแตมป์ (เค้าจะไปติดให้ทีหลัง)
 เราก็นั่งรอเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
 
 
 
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายก.ย. ประมาณ 5.45 พระอาทิตย์ก็ตกแล้ว ท่าทางหน้าหนาวจะยิ่งมืดไว ใครจะไปก็แพลนล่วงหน้าดีๆ จริงๆเราว่าถ้าขึ้นไปถึงซัก 5 โมงอยู่รอวิวจนมืดก็น่าจะคุ้มค่าตั๋วมากๆ ได้วิวทั้งกลางวันกลางคืนสำหรับคนที่อยากไปถ่ายรูป

จบแล้ว สรุปว่าถ้าโชคดีไปคนไม่เยอะ และมีเวลาในการซึมซับบรรยากาศนานก็น่าจะดีคะ คุ้มค่าตั๋ว :)