20/9/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 19 ก.ย. It's not Septaper

จากบล็อคคราวก่อนที่เขียนไว้ SET มาได้ไกลกว่าเป้าหมายที่ให้ไว้มากๆ และเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนกว่าที่กลับมายืนเหนือเส้น moving average ทั้งหลายได้ แถมเปิด Gap up ถึงสองครั้งในรอบ 3 วัน Volume trade กลับมาหนาแน่นอีกครั้ง อย่างวันนี้ก็สูงถึง 82.7 พันล้านบาท

 
ดูเหมือนสิ่งที่เขียนไว้เรื่องปัจจัยความเสี่ยงใน 5 วันก่อนจะ outdated เร็วมากๆๆๆๆๆ ซึ่งปัจจัยความเสี่ยงที่คลี่คลายลงเหล่านี้้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SET ปรับตัวขึ้นอย่างที่เห็น
  • เริ่มจากกรณีซีเรีย ที่ดูเหมือน US RUSSIA และ SYRIA เองจะตกลงกันได้ ก็คือไป declare chemical weapons ต่อ UN ประเด็นความน่าห่วงเรื่องว่าจะเกิดสงครามความวุ่นวายก็ลดน้อยลง
  • เกมเปลี่ยนจุดแรก คือ การที่ Lawrence Summers ถอนตัวจาก candidate ในการได้รับเลือกตั้งเป็น FED chairman แทน Bernanke อย่างที่เรารู้กันว่าในภาวะที่โลกเสพติด QE ตลาดหุ้นก็คงจะไม่ชอบเท่าไรที่จะได้ประธาน FED ที่ Hawkish อย่าง Summers เข้ามาแทน รวมถึงการที่เสียงใน FOMC ค่อนข้างแตก ความตรงและค่อนข้าง Aggressive ของ Summers คงไม่ค่อยเป็นผลดีเท่าไรต่อ FOMC สุดท้ายการที่ Summers ที่เป็น candidate สุดโปรดของ Obama ยอมถอนตัวไปก็ทำให้เรื่องง่ายขึ้น และทำให้ตลาดหุ้นตอนรับข่าวอย่างที่เห็นกัน (แอบคิดในใจ ถ้าเราเป็น Summers จะดีใจมั้ยนิที่ทำให้หุ้นขึ้นได้ทั่วโลกขณะนี้ 55)
  • ตอนนี้ Front runner ที่จะเป็น the first FED chairwoman ก็คือ Janet Yallen ซึ่งนางมีชื่อเสียงอย่างดีในด้าน accommodative policy และเห็นด้วยกับการมี QE สุดฤทธิ์ รวมถึงคัดค้านการ Tapering off รวมถึงอุปนิสัยที่ค่อนข้างเป็นคน compromise แถมด้วยอยู่ใน FOMC มานานน่าจะทำให้ FOMC member เสียงไปในทิศทางเดียวกันมากยิ่งขึ้น ทำให้ตลาดตอบรับเป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี Yallen กับ Obama ดูห่างเหิน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำงานร่วมกันจะลงเอยกันอย่างไร นอกจากนี้ก็มีกระแสว่า Yallen ค่อนข้างจะ behind the curve ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกะเศรษฐกิจสหรัฐรวมถึงระบบธนาคารที่ขณะนี้ต้องการการ Reform เป็นอย่างมาก คล้ายๆว่าระยะสั้นอาจจะดีด้วย QE แต่ consequense ที่ตามมาอาจจะเป็นปัญหาที่หนักหน่วงในภายหลัง อันนี้ก็นานาทรรศนะ ว่ากันไป
  • อีกหนึ่ง candidate ผู้ท้าชิงตำแหน่งกับ Yallen ก็คงจะเป็น Donald Kohn ก็ต้องติดตามดูกันว่าจะมาเป็นม้ามืดแย่งตำแหน่งไปจาก Yallen ในโค้งสุดท้ายได้หรือไม่
  • สุดท้ายที่ surprise ตลาดสุดๆก็คงจะเป็นว่า FED no taper ตอนแรกตลาดคาดการณ์กันว่าตลาดจะเริ่ม tapering ในเดือนก.ย. ช่วงแรกๆที่ตลาดกลับมาปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดดีใจที่ว่า FED อาจจะ taper น้อยกว่าคาด คือ ลดลงแค่ 10-15 พันล้านจากวงเงินที่ทำทั้งหมด 85 พันล้านต่อเดือน ปรากฏว่า FED ไม่ลดวงเงินอัดฉีดลงเลย ซึ่งตลาดกลัวการ Tapering มาตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผลพวงก็กระทบไปทั่วโลกทั้งตลาด Bond ตลาดหุ้น ค่าเงิน โดยเฉพาะอย่างประเทศ Emerging countries อย่างไทยๆเรา พอ FED ยังยืนยันฉีดยาต่อเท่านั้นแหละ เขียวกระจาย
  • จาก FED statement ก็กลายเป็นว่า FOMC จะรอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจเพื่อให้แน่ใจจริงๆว่าฟื้น ก่อนจะเริ่ม Tapering
The Committee decided to continue purchasing additional agency mortgage-backed securities at a pace of $40 billion per month and longer-term Treasury securities at a pace of $45 billion per month. 

The Committee is maintaining its existing policy of reinvesting principal payments from its holdings of agency debt and agency mortgage-backed securities in agency mortgage-backed securities and of rolling over maturing Treasury securities at auction. 

These actions should maintain downward pressure on longer-term interest rates, support mortgage markets, and help to make broader financial conditions more accommodative. 

The Committee is prepared to increase or reduce the pace of its purchases to maintain appropriate policy accommodation as the outlook for the labor market or inflation changes
  • ประชุม FOMC ครั้งต่อไป คือ 29-30 ต.ค. และ 17-18 ธันวาคม ส่วน Bernanke เองจะหมดวาระในสิ้นเดือนม.ค.ปีหน้า ก็ต้องดูกันว่าจะยังคงเริ่ม Tapering ในปีนี้หรือไม่
ความเห็นส่วนตัว ค่อนข้าง surprised เหมือนกันที่ FED ยังไม่เริ่ม Tapering ทั้งๆที่ส่งสัญญาณมาตลอดว่าจะเริ่ม Tapering ภายในปีนี้ ตลาดก็ตอบรับข่าวกันไปมาก จริงๆ ถ้าทำรอบนี้เลย แต่ไม่ได้ลดวงเงินอัดฉีดในระดับที่มากกว่าที่ตลาดคาดมาก เราว่าตลาดยังไม่น่าจะตกใจเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าน่าจะ price in ไปมากแล้ว แต่พอ FED ใจดีถึงกะไม่ลดวงเงินปั๊มเงินเลย ก็เลยอึ้ง ว่ามันเป็นเพราะว่า
  • เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นจริง? เลยไม่กล้าถอนยาแรง กลัวช็อค ไอ้ที่ว่ากำลังจะฟื้นก็จะไม่ฟื้นตามคาดอะไรแบบนี้
  • ไหนๆ Bernanke เองผู้กอบกู้โลกให้ asset appreciated ขึ้นมาตลาดจากการปั๊มเงินก็ใกล้จะลงจากตำแหน่งแล้ว ก็ควรจะจบแบบสวยๆ เริ่ม QE program แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ the next FED chairman เป็นคนหาทางจบ?
  • มีความเป็นไปได้สูงว่าที่ Yallen จะขึ้นมาแทน Bernanke ซึ่งนางชอบ QE เพื่อไม่ให้นโยบายของ FED ดูสับสนไปมา เดี๋ยวลดวงเงิน เดี๋ยวเพิ่มวงเงิน การนิ่งๆอยู่เฉยๆรอดูอาจจะเป็นวิธีที่ดีกว่าเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนทางนโยบายการเงิน
ทีนี้กลับมาประเด็นที่ว่า With or Without QE...ตลาดบ้านเรา ถือว่าได้รับ Inflows จาก excess liquidity เป็นอันดับต้นๆของโลกที่เงินไหลเข้าจาก QE program ทั้งในส่วนของตลาด bond และ Equity พอคนกลัวว่า Excess liquidity จะหายไปจาก Tapering ก็เกิด Great rotation ของ asset allocation ทั่วโลก Bond yield เพิ่ม Discount rate เพิ่ม Earning yield gap ลด PE ถูก distorted สุดท้าย Asset price ลด Money ถูก shifted จาก Bond to Equity แต่ใน  Equity class เอง เงินก็หมุนจาก EM ไปยัง DM สกุลเงิน $ กลับมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นสวนทางกลับ EM currency ทีนี้เมื่อทุกอย่าง Price in ไปในทาง Tapering แต่กลับ No taper คราวนี้ก็เลยเกิดกลับทิศกัน ค่าเงิน EM currency กลับมาเริ่มแข็งค่าขึ้น เงินที่เคยไหลออกก็กลับมาเป็นไหลเข้า asset price in $ term เริ่ม attractive ในสายตาของฝรั่ง ทีนี้ก็คงขึ้นอยู่กับว่ามันจะ last long แค่ไหนแล้วหละ ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย ถ้าฟื้นไม่จริงมันก็คงจะเป็นแค่ short lived
สังเกตได้ว่า TIPs น่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเหตุการณ์ข้างต้น (ถ้าคิดไม่ออกว่าทำไม ให้คิดถึงตอนเหตุการณ์ตอนต้นปีนี้จนถึงช่วงราวๆมี.ค.) จะว่าไป TIPs ก็โดน punished ไปมากตลาดเมกา ยุโรปนี่ new high กันไปแล้ว ประเทศแถบนี้ยังอีกห่างไกลเป้าหมายนัก
 
มาดูยอด fund flows บ้าง ฝรั่งเค้ากลับตัวไวจริง ตามฝรั่งไว้ไม่น่าผิดหวังมั้ง เราว่าสูตรนับ 3 รอบนี้ใช้ได้ดีทีเดียว ^^
อ่านมาตั้งนาน คงอยากรู้ว่า SET จะไปได้ถึงไหน ...คนเขียนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่กล้าจินตนาการว่าเงินที่ออกไปแสนล้านจะกลับเข้ามาเท่าไรในตลาดหุ้นจากฝรั่ง FED ไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำ QE tapering เพียงแต่จะทำในเวลาที่เหมาะสม เมื่อตัวเลขศก.เป็นใจ หากเมื่อไรเรื่องนี้กลับมาอีกที เราก็คงเจอผลกระทบกันอีกรอบนึง ตอนนี้ก็เฝ้าติดตาม US bond yield ไว้ให้ดี หาก spike มาเมื่อไร บาทเริ่มอ่อนอีกเมื่อไร ก็ให้ระวังแรงกระแทกกันอีกรอบ อันนี้จากปัจจัยภายนอกล้วน ปัจจัยภายในคงหนีไม่พ้นภาคเศรษฐกิจจริงว่าฟื้นตัวแค่ไหน โดยเฉพาะส่งออก ความคืบหน้าสองล้านๆที่อยู่ในสภา งบไตรมาส3 ที่ใกล้จะออกในอีกเดือนข้างหน้า ฟิวเจอร์ U ที่จะหมดอายุในวันที่ 27 ส.ค. และบรรดากอง trigger fund ที่ค้างติ่งอยู่จำนวนมาก หาก SET ขึ้นไปสูงๆก็อาจจะเจอแรงขายจากตรงนี้ส่วนนึง ...ลองนึกปัจจัยที่มีผลประกอบการพิจารณาลงทุนดู 

ส่วนกราฟก็ตามนี้
 
 
ไม่รู้ทั้ง Summers' and Bernanke's gap จะต้องลงมาถูกปิดหรือเปล่า หรือว่าจะเป็น Breakaway gap ไปเลย โปรดติดตาม

14/9/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 14 ก.ย. Foreign comes back

จากคราวก่อนที่เขียนบล็อกไป อารมณ์ตลาดเปลี่ยนไวมาก สรุปเลือกทางขึ้นซินะ MACD ตัดขึ้นมาเรียบร้อย ATR ค่อยๆลดแต่ยังสูงอยู่ แม้จะมีด่านข้างบนอีกหลายเส้น
อย่างน้อย GAP ที่เคยเปิดไว้ก็ถูกปิดเรียบร้อย
SET ดูเหมือนจะลุ้นผ่าน downtrend line ตีบางเส้นก็ผ่านแล้ว บางเส้นก็ยังไม่ผ่าน 555 Technical มันเป็นศิลปะจริงๆ
 
แต่มองสั้นๆก็ยังเป็น uptrend
สิ่งที่เปลี่ยนไปในช่วงวีคที่ผ่านมา คือ ฝรั่งกลับมาซื้อและปิด short ที่สะสมไว้ไปเยอะมากๆๆๆๆ และอย่างที่เคยให้ข้อสังเกต การเคลื่อนไหวของ SET ช่างเป็นไปตาม fund flows จริงๆ

สถานะ ณ 4 ก.ย.
สถานะ ณ 13 ก.ย.
สถานะสุทธิของไตรมาสนี้ ซึ่ง U จะหมดสัญญาวันที่ 27 กันยานี้แล้ว พอเดาเกมออกมั้ยว่าน่าจะออกมาในรูปแบบไหน  ช่วงนี้ basis ก็แคบจัด จากลบ 20 ช่วงดราม่า บางทีกลับมาใน + เลยทีเดียว 
อ่อ ลืมบอกไปฝรั่งกลับมาให้เรานับ 3 อีกแล้ว สำหรับคนที่รอสัญญาณนี้ (แอบหงุดหงิดเล็กน้อยตรงวันที่ซื้อ 985 เหมือนรู้เลยว่าเรารอให้ซื้อเกิน 1000 ค่อยนับ ขาดไป 15 ล้าน ถ้าหยวนๆก็ได้นับเร็วไปอีก 1 วัน)
ทำไมฝรั่งกลับมา buy thailand อีกรอบ? ที่สำคัญกว่ากลับมาซื้อ คือ จะอยู่นานมั้ยสำหรับเงินเข้าใหม่รอบนี้
ลองหาเหตุมาอธิบายผลกันดูบ้าง 
  • บางคนก็มองว่าเรื่อง Fed tapering มัน overdone เกินไปในตลาด emerging market รวมถึงตลาดไทยด้วย Capital outlows ที่ออกไปก่อนหน้าได้สะท้อนไปใน asset price และ FX ไปแล้ว 
  • ถ้า Taper จากเดิมเดือนละ 85000 ลดลงมาเหลือ 70000-75000 อาจจะน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ตอนแรก ความกังวลตรงนี้อาจจะลดลง
  • Flows เริ่ม rotation มาเข้าตลาด Emerging market บ้างหลังจากที่ออกมาตลอด 
  • การที่ช่วงหลัง ตัวเลขจีนออกมาดี ความกลัวเรื่อง hard landing ก็น้อยลง จีนซึ่งเป็น trade partner สำคัญของไทย ถ้าจีนไม่แย่อย่างที่คิดประเทศคู่ค้าอย่างเราก็อาจจะได้รับผลกระทบน้อยลงจากการชลอตัวของเศรษฐกิจจีน 
  • การที่ PMIs ทั่วโลกออกมาดี ตัวเลขทางเศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัว ทำให้การคาดหวังด้านส่งออกจะกระเตื้องตัวขึ้นสำหรับประเทศไทย Current account deficit ซึ่งเป็นปัญหาที่น่ากังวลอาจจะลดน้อยลง อีกอย่างช่วงนี้เป็นช่วงใกล้ pre X'mas order อาจจะเป็น export season พอดี ก็ได้แต่หวังว่าตัวเลขเดือนส.ค.ที่จะออกมาเราจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจริงๆ ไม่ง้าน GDP downgrade กันอีกรอบแหง
  • Valuation is justified เหมือนก่อนที่จะมี QE2,3 ซึ่งทำให้ liquidity flush เข้ามาใน Emerging market อย่างไทยมาก SET ก็ประมาณ 12xx นี้ ตอนนี้ก็เหมือนเราก็เทรดกันเหมือนไม่มี effect ในส่วนของ hot money premium ตรงจุดนั้นแล้ว อีกอย่าง earning growth ของ corp ก็ยัง deliver ในอัตราที่ดี ทำให้ valuation is more justified than before
  • MSCI จะมีการออก index ใหม่ คือ MSCI new emerging market index ซึ่งไม่รวม BRIC ไทยก็เป็นหนึ่งใน member ด้วย บ้านเราน้ำหนักใน Emerging market จะเพิ่มจาก <3% มาเป็น >6% ตรงนี้อาจจะทำให้มี inflows เข้ามาดักรอก่อน
  • Technical bounce
  • เมื่อ currency เริ่ม stabilized ฝรั่งอาจจะมองเห็น downside from FX loss is limited ถ้าปีหน้าเทรนด์ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น GDP growth โตขึ้น ภาพรวมค่าเงินอาจจะกลับมาแข็งค่าขึ้น เค้าอาจจะมองเห็นโอกาสในด้าน FX gain in the future beyond capital gain ก็เป็นได้
ความเสี่ยงก็ยังมีเหมือนเดิม อย่ามองด้านเดียว ให้ keep in mind ไว้เสมอ เดี๋ยวโลกจะสวยเกิน 555
  • FED tapering ยังไม่ชัด ตลาดเกิดจะกลัวขึ้นมาอีกก็เป็นได้ ต้องรอติดตาม FOMC วันที่ 17-18 นี้
  • มีข่าวใหม่ว่า Obama อาจจะแต่งตัว Summers ขึ้นมาเป็นประธาน FED คนใหม่แทน Bernanke ซึ่งแน่นอนว่าคนนี้ไม่ Pro QE ไม่เหมือน Yallens ซึ่ง Wall street จะชอบมากกว่าเพราะว่า Pro QE ก็ไม่รู้ว่าถ้า Obama แต่งตั้งขึ้นมาจริงๆ เสียงใน FOMC จะ hawkish มากขึ้น การดำเนินนโยบายของ FED จะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด 
  • ซีเรีย เรื่องเหมือนจะ soft ลงแต่ยังไม่จบซะทีเดียว 
  • สองล้านๆของไทย เลื่อนอีกรอบ ข่าวว่าจะเข้าวีคหน้านี้ หวังว่าจะไม่เลื่อนอีกหละ
  • ที่สำคัญ คือ รอติดตามตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. น่าจะเป็น key บอก improvement ของศก.ได้เป็นอย่างดีว่าจะฟื้นจริงอย่างที่ตลาดคาดหวังมั้ย
  • Corporate earnings ในไตรมาสที่ 3 ใกล้จะออกแล้วเดือนหน้าก็ต้องรอติดตาม 
  • Sequestration และ Debt Ceiling ของ US ที่ยังรออยู่ในเดือนข้างหน้า
  • การเลือกตัวของ Germany ซึ่งหลังจากนี้เราอาจจะเห็นความเข้มงวดของ policy มากขึ้นภายหลังการเลือกตั้งจบก็เป็นได้ โดยเฉพาะต่อกรีซ 
SET จะไปได้ถึงไหนรอบนี้??
เดาเล่นๆ 1450-1460 รอบนี้น่าลุ้น ให้ 1380-1370 เป็นจุด stop

7/9/56

รีวิว โรงแรม Verano Beach Villa (เบราโน บีช วิลล่า) ชะอำ และ พาเที่ยว The Venezia หัวหิน

เร็วๆนี้ได้มีโอกาสไปลองโรงแรมใหม่ที่ชื่อว่า Verano Beach Villa อยู่หาดปึกเตียน ชะอำมา น่าจะเปิดมาได้ไม่นานมากเพราะยังดูใหม่อยู่เลย ก็เลยถือโอกาสรีวิวซะหน่อย อันนี้เป็น website ของโรงแรม ส่วนนี่ก็เป็น Facebook ของโรงแรม

ชื่อโรงแรม Verano แต่ภาษาไทยที่เป็นป้ายกลับใช้ว่า เบราโน เราก็อ่านผิดเป็น เวราโน มาตลอด การเดินทางก็มาตามป้ายหาดปึกเตียนเลย เข้ามาก็จะมีป้ายบอกตลอดทาง ถนนทางเข้าเราว่ามันก็เปลี่ยวๆไปนิดสำหรับเส้นนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลากลางคืน ตรงทางเลี้ยวเข้าโรงแรมเสียอยู่หน่อยที่ว่ายังเป็นทางลูกรังอยู่เลย
หน้าโรงแรม
หน้าโรงแรม
โรงแรมนี้เป็นตึกเล็กๆสองตึกอยู่ติดกัน ตกแต่งโดนเน้นโทนสีขาว แนวๆฝรั่งเศส+วินเทจ ใครชอบโรงแรมเล็กๆ สไตล์กุ๊กกิ๊กๆน่ารักน่าจะชอบเลยหละ อันนี้เป็นชั้นล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณReception area ล็อบบี้ (ห้องสมุด มีหนังแผ่นและหนังสือให้ยืมด้วย) ห้องอาหาร
Lobby
Lobby
ห้องสมุด
ห้องสมุด
ห้องอาหาร
Reception counter
Reception counter
ตึกนี้มี 3 ชั้น ไม่มีลิฟต์นะคะ ต้องเดินขึ้นบันไดไป
 เราพักแบบห้อง Sand Terrace จากห้องไม่ติดทะเลนะ มองไปไม่เห็นวิวอะไร ชอบที่ห้องมีปลั๊กเยอะดี
หน้าห้องพัก
เตียง
โต๊ะเครื่องแป้ง
ทีวี และเครื่องเล่นดีวีดี
โต๊ะทำงาน
ตู้เย็น
มาดูห้องน้ำกันบ้าง ใหญ่ใช้ได้ อุปกรณ์มีครบเว้นยาสีฟันและแปรงสีฟัน อย่าลืมเอามาเองด้วย ชอบห้องน้ำที่มีที่นั่ง เหมาะกะคนแก่อย่างเรา 55
ห้องอาบน้ำ ระวัง step ด้วย
ห้องน้ำ
อุปกรณ์ต่างๆ
 เราพักอยู่ชั้น 3 ออกนอก terrace ไปไม่มีอะไร แต่เพื่อนที่พักอยู่ชั้น 2 จะมีมุมนั่งเล่นอยู่ด้านนอก
Terrace
ไปเดินเล่นสำรวจบรรยากาศรอบๆโรงแรมกันบ้าง
หน้าตาโรงแรมมองเข้ามาจากหาด

ชอบเก้าอี้สองตัวนี้มาก นอนสบาย
 
 บริเวณสระว่ายน้ำ สระที่นี่เล็กๆ เหมาะกะเด็กๆเล่นมากกว่า 
 
 
ตอนเช้า ถ้าตื่นไหว แนะนำให้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นคะ ราวๆ 6 โมง ...ทะเล พระอาทิตย์ขึ้น ยามเช้า ริมชายหาด คือ ที่สุดของบรรยากาศแล้ว :)
มาดูไลน์อาหารเช้าบ้าง เป็น buffet ตั้งแต่ 8 โมงถึง 10 โมงครึ่งนะคะ ของมีให้เลือกพอประมาณ แต่ที่สำคัญ คือ รู้สึกได้ว่าใช้ของดีอย่างพวกไส้กรอก แฮมเป็นต้น แพนเค้กอร่อยดี แต่ไข่คนมันแห้งเกินไปจนจะเหมือนไข่เจียวแล้ว และที่ห้ามพลาด คือ กาแฟสดคะ เครื่องชงโปรมาก รสชาติดี 
 
 
 
 
 
 
ข้อดี คือ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ริมหาดเลย หาดตรงนี้ก็เงียบสงบดี ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน โรงแรมยังใหม่อยู่ ตบแต่งสไตล์น่ารัก ที่ประทับใจเป็นพิเศษ คือ พนักงานมี service minded ที่ดีมากทุกคนเลย ตั้งใจบริการสุดๆอ่ะ โรงแรมเล็กๆ เจ้าของลงมาดูแลเองด้วย ติหน่อยก็ตรงทางเข้าโรงแรม และในห้องมีมดตัวเล็กๆเยอะเหมือนกันในบางจุด  ....ถ้าใครชอบโรงแรมเล็กๆ มีสไตล์ก็จัดเป็นอีกทางเลือกนึงคะ หาดปึกเตียนจะเดินทางเข้าไปเที่ยวในหัวหินก็ไม่ไกล
สุดท้าย ได้แวะไปที่ The venezia หัวหิน จริงๆดูเหมือนยังไม่เสร็จดีทีเดียว แต่เปิดทำการแล้ว อันนี้เป็น website  สร้างได้อลังการดี สีสันสดใส แต่พอดีตอนที่ไปเป็นจังหวะฝนตกพอดีเลยไม่ค่อยได้เดินดูอะไรมาก ไปติดฝนซะมากกว่า พื้นที่ตึกส่วนใหญ่ก็เอา outlet ขายของมากกว่า
 
 
 
 
Highlight ที่นี่คงอยู่ที่คลองตรงนี้ที่จำลองเหมือน Venice มี Gondola ด้วย
 
 
 
ตอนมืดเห็นมีเปิดไฟ มีน้ำพุเต้นระบำด้านหน้าด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมา ใครผ่านมาก็น่าจะแวะมาดูซักครั้งหนึ่งคะ จริงๆก็ไม่ค่อยมีอะไร มาถ่ายรูปสวยๆได้ คาดว่าจะเป็น magnet ของหัวหินไปอีกซักพัก :)