SET index ในปี 2557 ปิดที่ระดับ 1497.67 หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นไป 15.32% เมื่อเทียบกะปีก่อน ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีลงทุนที่ค่อนข้างยากมากเหลือเกิน จะเห็นได้ว่าถ้าดูภาพรวมๆแล้วตลาดปรับตัวขึ้นค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แต่เราเจอความผันผวนอย่างมากกันเกือบตลอดทั้งปีเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่เปิดตลาดวันแรกที่ลบไป 5.23% ตั้งแต่วันแรก เรียกได้ว่าเปิดฉากมาก็สร้างความกลัวกันเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นก็ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด มาแบบงงๆด้วย เพราะอย่างที่รู้กันว่า ประเทศไทยเราในปีนี้ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยปกติ รัฐบาลก็เป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ซึ่งเป้าหมายหลักของการเข้ามาบริหารประเทศก็คือการปฏิรูป ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาประเทศเชิงเศรษฐกิจซักเท่าไร โปรเจคต่างๆไม่ค่อยมีออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ GDP ไทยก็ต่่ำเตี้ย เรียกได้ว่าโตต่ำกว่ามาตรฐานค่าเฉลี่ยของประเทศมาก พืชผลการเกษตรราคาตกต่ำ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง การบริโภคในประเทศชลอตัว ความเชื่อมั่นจากต่างชาติหายฝรั่งก็เทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาต่อ เนื่องจากปีก่อน แต่หุ้นไทยก็ปรับตัวขึ้นมาอย่างงงๆด้วยความหวังต่างๆนานาว่าปีหน้าต้องดี กว่านี้ เป็นต้น ระหว่างปีเราก็เจอความผันผวนหนักๆกันเป็นระลอกในช่วงเดือนพ.ค. ส.ค. ต.ค. และหนักที่สุด คือ เดือนธ.ค. นี่แหละ เรียกได้ว่าเกือบได้ใช้ circuit breaker กันเลยทีเดียว ระหว่างวัน SET ลบไปถึง 9% ได้ จากสารพัดเรื่องทั้งเรื่องปัญหา geopolitical risk ราคาน้ำมันตกต่ำ กลัวจีน hard landing กลัว FED ขึ้นดอกเบี้ย และสารพัดข่าวลือ แต่สุดท้าย SET ก็ยังประคองตัวปิดปีคาบเส้น SMA200D เรียกได้ว่ายังไม่ยอม entry bear market อย่างจริงจัง
1 ปีที่ผ่านมา SET เราเคยขึ้นไปปิดสูงสุดที่ 1600.16 กันเลยทีเดียวในช่วงเดือนกันยายน ตลาดพยายามกลับไปเทสแถวระดับ 1600 ใหม่อยู่หลายรอบในช่วงเดือนธ.ค. แต่ไม่ไหวแถวถอยรูดอย่างหนัก DD จาก high ในช่วงเดือนธ.ค. ก็สูงถึง 16% เลยทีเดียว (low ที่ 1375.99) ดูจากความเหวี่ยงแล้ว High volatility seems to be new normal สำหรับตลาดหุ้นสมัยนี้ เนื่องด้วย SCN ด้วยมั้งทำให้ market efficiency สูงขึ้นมากกกกกก (ทั้งข่าวจริงข่าวลวง เรียกได้ว่ากระจายข้อมูลกันได้ไวเว่อ) อีกอย่างตลาดสมัยนี้มัน connected กันไปหมดด้วย แถมคนเชื่อในเทคนิคมากขึ้น และมีการใช้ algorithm trading /robot ก็เยอะขึ้นอีก
ปีนี้ ถือเป็นปีทองของหุ้นตัวจิ๋ว ตัวเล็กทั้งหลาย จะเห็นได้ว่าตลาด MAI (นี่ขนาดเป็นระดับ index นะ ไม่ใช่หุ้นรายตัว) บวกไปเกือบเด้งนึง และสังเกตได้จาก SET outperform SET100 และ SET 100 เองก็ outperform SET 50
*P/E P/B เป็นแบบ trailing source จาก BIZNEWS
มาดูราย sector กันบ้าง sector จะเห็นได้ว่า sector ที่ทำ return ได้สูงสุด คือ Professional services, รองมาก็ Home และ Mining ส่วน sector ที่แย่สุดและถึงขั้นติดลบก็คือ Petro
ถ้าดูจาก attribution แล้ว (assume ใช้ weight ณ วันที่ 30 ธ.ค. เพื่อความง่ายในการคำนวณ) จะเห็นได้ว่า return ของ SET index มาจาก Banking และ ICT sector เป็นหลัก ส่วนตัวที่ฉุด index ก็คือ Petrochem sectorมาดู Super stocks ในปี 2557 กัน สุดยอดของสุดยอดคงต้องยกให้ ABC ที่บวกไป 2653% ใน 1 ปี รองลงมาก็เป็น RICH บวกไป 959% และ PAF บวกไป 908% ....หุ้นที่เป็น top gainers 20 ตัวแรกของตลาดนิบอกเลยว่ารู้จักไม่ครบทุกตัว แถมใน 20 ตัวไม่มี E หรือ Earnings ไปซะ 10 ตัว ><"
*P/E P/B เป็นแบบ trailing source จาก BIZNEWS
ส่วนหุ้นยอดแย่ของปีได้แก่ M-AAA ที่ลบไป 95% TRS ลบไป 79% YNP ลบไป 63%
มาดูที่ TOP 20 ที่มี market cap สูงสุดในตลาดบ้าง (mkt cap ณ วันที่ 30 ธ.ค.) การถือหุ้นใหญ่ หุ้นที่ดำเนินกิจการหลักๆของประเทศไทย ผลตอบแทนก็แตกต่างกันไป มีทั้งดีกว่าตลาดมาก และแย่กว่าตลาดมาก ติดลบเลยก็ไม่ใช่น้อย คือ แม้บริษัทไม่ล้ม แต่ถ้ามันอยู่ใน cycle ที่ไม่ดีของธุรกิจ ผลตอบแทนของหุ้นที่ถือมันก็เป็นไปตามนั้น
มาดูที่ผู้เล่นของตลาดกันบ้าง จะเห็นได้ว่าสถาบัน เป็นผู้ net buy หลักๆของตลาดมาเป็นปีที่ 2 ติดกันแล้ว ปีนี้ net buy ไปถึง 71xxx ล้านบาท ไม่รู้ว่าด้วยขนาดของกองทุนรวมที่โตขึ้น (คร่าวๆปีนี้ nav กองทุนโตประมาณเกือบ 20%) ทำให้มี new money ขึ้นมาจากการที่คนให้เงินทำงานผ่านกองทุนมากขึ้น หรือเหตุใด ส่วนฝรั่งก็ยังเป็น net sell สำหรับตลาดไทยต่อเนื่องจากปีก่อนปีนี้ขายไปอีก 36xxx ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก ตลาดหุ้นไทยก็ไม่น้อยหน้าใครในโลกนี้ทีเดียว ปีนี้ตลาดหุ้นที่ perform เอามากๆคงต้องยกให้ตลาดจีนและอินเดีย แต่จะเห็นได้ว่าตลาด TIPs ของเรานี่ return ดีมากกเลยนะเมื่อเทียบกะตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก บ้านเราว่า return ปีนี้ดีแล้วแต่เทียบกันเองใน TIPs นิถือว่าน้อยที่สุดเลย ส่วนตลาด developed market มีตลาด US ที่ปิดปีนี่แทบจะ new high ของปีที่ return ดี ส่วนในยุโรปเองถือว่าบวกจิ๊ดๆ มีบางประเทศที่ถึงกะติดลบ
เห็นหลายๆคนกระจายความเสี่ยงไปลงหุ้นในตลาดต่างประเทศกันมาก ก็อาจจะเป็นวิธีการบริหารความเสี่ยงของพอร์ต แต่ความยากก็มากขึ้นตามไปด้วย นอกจากที่ว่าตลาดบ้านเค้ามันจะไกล บางเรื่องเราอาจจะไม่อิน รู้ไม่ไวเท่าเค้าแล้ว ยังมีประเด็นเรื่องความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นมาอีก ก็ลองดูคะ :)
สำหรับ alternative investment ปีนี้ถือว่าเหนื่อยทีเดียวสำหรับ Commodities โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้้ำมัน มันกลายเป็นเหมือน cold war ผ่านราคาน้ำมัน ฆ่าฝ่ายตรงข้ามโดยการบีบผ่านราคาน้ำมัน เรียกว่าทนได้ทนกันไป ใคร cost ต่ำ สายป่านยาวกว่าก็ทนได้นานกว่า เรียกได้ว่าแทบลืมไปเลยว่าราคาน้ำมันเคย 90 100 ในปีก่อนๆ ส่วนทองคำก็ยังต่ำเตี้ยเหมือนเคยหลังหมดยุค QE และในสถานการณ์ low inflation ส่วนหนึ่งที่ทำให้พวก commodities ไม่ perform ก็คงจะเป็นเพราะการแข็งค่าของ $ ด้วยส่วนหนึ่ง
คร่าวๆก็ประมาณนี้ ขอให้ปี 2015 เป็นปีที่ดีสำหรับการลงทุนของทุกคนคะ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น