รีวิว เที่ยวอิตาลี (ตอนที่ 2) : ที่พักใน Italy

ความเดินตอนที่แล้วคะ เรารีวิว การเตรียมเที่ยวอิตาลีไปแล้ว ก็มาถึงเรื่องที่พักกันบ้าง อย่างที่บอกว่าเราจะนอน 4 เมืองหลักๆ คือ Rome, Florence, Venice และ Milan ส่วนที่อื่นๆใกล้เคียงก็อาศัยเป็น One day trip ไปคะ

ก่อนอื่นก็ออกตัวก่อนว่าทริปนี้เป็น Budget trip คะไปแบบไม่แพง ที่พักก็เลยไม่ได้เน้นความสวยงามอะไรมาก เอาสะดวกเป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่เราก็ออกไปลัลล้ากันแทบทั้งวันอยู่แล้ว ที่พักใช้แค่เป็นที่นอน อาบน้ำ

Criteria ที่เราใช้เลือกๆ ก็คงไม่พ้นเรื่องราคา ที่จะต้องไม่แพงมาก, Location เน้นใกล้สถานีรถไฟไว้เป็นหลัก เพราะขนย้ายกระเป๋าไกลๆไม่ไหว (หนักเกินนนความสามารถของผู้หญิงบ้าหอบฟางแต่แรงน้อยอย่างเรา) สะอาด และสุดท้าย ดูรีวิวของคนอื่นแล้วโอเค (อาศัย Trip advisor อีกแล้ว)

เราก็จองโดยเปรียบราคาจากใน booking.com verene.com เป็นหลัก พวกนี้จองยังไม่ต้องจ่ายเงินเลย ก็ไปจ่ายเมื่อเข้าพัก... ที่นี่เค้าจะมี city tax เพิ่มจากค่าเข้าพัก โดยคิดเป็นต่อตัวต่อคืน แต่ละเมือง city tax ก็ไม่เท่ากัน อันนี้จะต้องจ่ายชำระด้วยเงินสดเท่านั้น

สุดท้ายก็เลยมาลงตัวที่ 4 ที่นี่ เริ่มจากเมืองแรกที่ Rome หรือ Roma คะ เราพักกันที่ Independence Square Inn ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในจาก website จาก Central Roma - Termini Stazione ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของโรม ก็เดินประมาณ 10 นาที ก็จะถึงตัวโรงแรม อย่างที่ในเว็บไซด์เค้าเขียนไว้ว่าอย่ามองหาป้ายโรงแรม ให้ดูที่บ้านเลขที่เป็นหลัก อันนี้จริงที่สุด เพราะถ้าไม่สังเกต นี่เราอาจจะเดินผ่านเลยตัวโรงแรมไปได้ง่ายๆ

ในตัวตึกเหมือนว่าจะมีหลายเจ้าของ ในตึกเดียวกันนั้นก็มีอีกโรงแรมนึงเช่นกันคะ ส่วน Independence Square Inn ที่เราเข้าพักนั้นอยู่ชั้น 2 ไม่มีลิฟต์นะคะ ออกแรงยกกระเป๋ากันอีกแล้ว ที่นี่จะมีประตูกั้นเพื่อความปลอดภัยเป็นชั้นๆ โดยทางโรงแรมเค้าจะให้กุญแจเรามา เวลาเข้าออกก็เปิดปิดล็อคกันเอาเอง

ห้องที่เราอยู่เป็น Double Bed - Shared bathroom เข้าไปในห้องก็มีข้าวของตามนี้เลย เตียง ตู้เสื้อผ้าพัดลม ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ และก็ไม่มีกระจกเต็มตัว plainๆ เท่านี้แหละ

 

 

อันนี้เป็นวิวจากห้อง

ตอนนอน เราก็ไม่ได้เปิดหน้าต่าง เพราะกลางคืนค่อนข้างเย็น อาศัยพัดลมในห้องก็เย็นกำลังดีพอแล้วคะ

ส่วน shared bathroom ที่นี่ก็คือ ห้องน้ำมันอยู่นอกตัวห้องนอน เดินออกจากประตูไปก็เจอห้องน้ำแล้ว และจะต้องใช้ร่วมกับอีกห้องนึงที่เป็น Double bed shared bathroom เหมือนกัน แต่ตลอดเวลาของการเข้าพัก 3 คืนของเราที่นี่ เราไม่เจอคนที่มาแชร์ห้องน้ำใช้ด้วยเลยคะ...ประสบการณ์การใช้ shared bathroom ที่นี่ต่างไปจาก hostel ที่ UK มาก อันนั้นสภาพห้องจะเหมือนเวลาเราไป fitness อ่ะ

ส่วนอีกห้องนึงที่เพื่อนเราพักเป็นแบบ Triple room - En suite มีห้องน้ำในตัว พักได้ 3 คน แต่เราไม่ได้ไปถ่ายรูปมารีวิว 

อาหารเช้าที่นี่ จะเริ่มตอน 8.00 ลงไปทานได้ในชั้นข้างล่างจะมีห้องเล็กๆไว้ให้ทาน Breakfast เราได้ทานแค่วันแรกวันอื่นจะต้องออกจากที่พักไวกว่า 8.00 ตลอด ก็บอกคนดูแลเค้า เค้าก็จะเอาเจ้าขนมปังครัวซองค์และน้ำส้มมาไว้ให้ในห้องให้

โดยรวมที่พักที่นี่ห้องใหญ่ สะอาด เข้ามา turn bed ให้ทุกวัน สะดวกไม่ไกลจากสถานีรถไฟ วันแรกที่ลากกระเป๋ามารู้สึกว่าไกลจัง แต่พอวันหลังๆเดินตัวปลิวก็รู้สึกว่าไม่ไกลแล้ว หน้าซอยใกล้ๆที่พักก็มี Conad ซึ่งเป็น supermarket สะดวกถ้าจะซื้ออะไร (แต่ปิดเร็ว ปิด 20.00) คนดูแลให้คำแนะนำดี อยากทราบอะไรก็ถามเค้าได้friendly พอควร ฟรี wifi

================================

จากนั้นเราย้ายเมืองมาที่ Florence หรือ Firenze เรามาพักกันที่ Hostel Archi Rossi ที่พักสุดฮิตของคนไทยที่มาเที่ยวฟลอเรนซ์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน website

จาก Firenze S. M. Novella ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองฟลอเรนซ์ถึงโรงแรมก็ไม่ไกลคะประมาณ 7 นาทีก็ถึง เรามาถึงก่อนเวลาเช็คอิน ก็ฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้

ตอนเรามาถึงที่ lobby จะเช็คอิน เค้าก็อธิบายคร่าวๆว่าอะไรอยู่ตรงไหนให้ฟัง ดูรอบๆโรงแรมด้านล่างกันบ้าง ก็จะมีมุมหนังสือ มุมคอมพิวเตอร์ มีห้อง laundry ซึ่งอยู่รวมกะที่เติมน้ำ มีพวกตู้กดน้ำและมาม่า มีห้องอาหาร

 

 

 

ห้องนอนเป็นแบบ Quintuple Room สำหรับ 5 คน ห้องน้ำในตัว 1 ห้อง แต่ละเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าพร้อมกุญแจล็อคมาให้  อ่อ ที่นี่ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ ต้องเอามาเองนะ

 

 

 ในห้องมีคอมพิวเตอร์ให้หนึ่งเครื่อง

อาหารเช้าเริ่มตั้งแต่ 7 โมง ไลน์อาหารหลากหลายตามที่เห็น เหมือนกันทุกวัน ชอบกดช็อคโก้ร้อนที่นี่อร่อยๆ เหมาะกะอากาศหนาวๆตอนเช้า

 

 

 

 

 

 จาน ช้อน แก้วที่นี่เป็นพลาสติก ทานแล้วก็ต้องเก็บไปทิ้งด้วยจ้า

 

โดยรวมที่นี่ facilities ครบถ้วน มีลิฟต์ สบายตอนขนกระเป๋า ฟรี wifi ที่นี่จะมีน้ำดื่มให้เติมทั้งแบบเย็นและร้อนซึ่งช่วยมาก หากใครพกมาม่ามากินด้วย :P location ดี อยู่ใกล้สถานีรถไฟ รถบัส ไม่ไกลจาก duomo และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาหารเช้าดี หลากหลาย สะอาด แต่เค้าไม่ turn bed ให้ มาทำความสะอาดแค่ห้องน้ำ

===============================

จริงๆ เราจองที่ Hostel Archi Rossi ไป 5 คืน แต่ปรากฏว่าห้อง 5 คนว่างแค่ 4 คืนคืนสุดท้ายก็เลยต้องย้ายห้องเป็นห้อง 2 คน และห้อง 3 คน แล้วก็ต้อง check out และ check in ใหม่ ปรากฏว่าตอน check in ห้อง 2 คน Deluxe Double ที่จองไว้ คนที่เคาน์เตอร์ก็พาเราไปอีกที่นึง โรงแรมติดๆกันห่างไปประมาณ 3 ห้องให้ย้ายไปนอนที่โน่นแทน Hotel Mia Cara ทั้งๆที่ตอนเราจองเราก็จองเป็นชื่อ Hostel Archi Rossi ส่วนเพื่อนเราที่นอน 3 คนก็นอนที่โรงแรมเดิม งงดีแท้ ...แต่สรุปว่าเค้าน่าจะ co กันนั่นแหละ เลยส่งแขก refer กันแบบนี้

ตรง lobby ตกแต่งสไตล์ vintage ดูอบอุ่น

 

มาดูห้องพักของเรากันบ้าง

ตู้เสื้อผ้ามีตู้เซฟ

ห้องน้ำ

 

 

ในห้องมีคอมพิวเตอร์ ทีวีให้

 

วิวจากห้อง

อาหารเช้าเริ่ม 7 โมง ไลน์ที่นี่คล้ายๆที่ Hostel Artel Rossi แต่หลากหลายกว่า มีโยเกริ์ตให้เลือกเพียบ ขนมปังก็เยอะกว่า

 

 

 

 

 

 

อ่อ ที่นี่ไม่ต้องเก็บจานเอง :P

 

โดยรวม ห้องมีความเป็น hotel มากกว่าที่แรก มีลิฟต์ โลเคชั่นดีเหมือนกัน free wifi ดีแล้วที่ย้ายมา นอนสบายกว่า ที่โน่นคนพลุกพล่านกว่า ที่นี่สงบกว่า ถ้าคราวหน้ามาพัก จะเลือกที่นี่ ^^"

=======================================

จาก Florence เราย้ายมาต่อกันที่ Venice หรือ Venezia เราพักกันที่ Bed and Breakfast Al Saor ที่เวนิสนี่เราเลือกพักในเกาะ ราคาก็จะสูงขึ้นมานิดนึง แต่ถ้าใครไม่อยากจ่ายแพง ก็เลือกพักแถวๆสถานีรถไฟก็ได้ ....ที่ Bed and Breakfast Al Saor นี้ พอลงสถานีรถไฟหลักที่ Venezia S. Lucia  แล้วต้องนั่งเรือสาย 1 มาลงที่ท่าCa’ d’Oro จากนั้นเดินไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงที่พักคะ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ใน website  ที่นี่ก็เป็นเหมือนบ้านคนแล้วมาดัดแปลงเป็น b&b ป้ายที่พักก็จะหายากนิดนึง ต้องสังเกตเอาหน่อย

ที่พักที่นี่เจ้าของเป็นผู้หญิง 3 คน (เดาว่าเป็นคุณแม่และลูกสาวอีกสองคน) ช่วยกันดูแล ห้องแต่งน่ารักทีเดียวคะ พอเป็นสไตล์ b&b มันเลยให้ความรู้สึกเหมือนว่ามานอนบ้านเพื่อนมากกว่า

 

ที่นี่ไม่มีลิฟต์ เวลาขนกระเป๋าก็ลำบากหน่อย แต่จากท่าเรือมาถือว่าดีมากกว่าคาดสำหรับเวนิช ที่นี่เค้าจะมีเป็นไม้พาด ทางลาดให้ ขนสบาย ถ้าที่ท่าเรือเค้าเป็นแบบโป๊ะบ้านเรา ชีวิตคงลำบากกว่านี้มาก

มาดูห้องพักกัน อันนี้เป็นห้อง double bed

 

 

ห้องน้ำ

 

 

 

ภายในห้อง

 

วิวจากในห้อง

ภายในห้องจะมีคู่มือท่องเที่ยวพร้อมรหัสwifi อันยาวเหยียด

อีกห้องนึงเป็น Triple room มีครัวในห้องเลย

 

 

 

 

 

 

 

อาหารเช้าที่นี่เริ่ม 8.30 เราจะนั่งทานกันตรงระเบียง ใกล้ๆครัว

 

มื้อเช้าก็เป็นขนมปังอีกแล้ว แต่ครัวซองค์ที่อุ่นร้อนๆ พร้อมโรยไอซ์ซิ่งมันอร่อยมาก อีกวันนึงที่เราอยู่ที่นี่จะต้องออกแต่เช้า ทางโรงแรมก็จะเอาขนมปัง นม และน้ำผลไม้ไปเตรียมไว้ในห้องให้

 

 

 

โดยรวม ที่นี่เดินใกล้ท่าเรือ ทำให้เดินทางสะดวก  ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว อย่างสะพาน Rialto นี่ใกล้มาก แถวๆที่พักก็มีร้านอาหาร มี Mc มี Grom มีแหล่งช็อปปิ้งร้าน local แต่ซอยเข้าไปในโรงแรมมันเปลี่ยวๆไปหน่อย โชคดีที่มีร้านอาหารอยู่ด้านหน้าเลยไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร โรงแรมน่ารักดี แต่ห้องเล็กไปหน่อย (ยิ่งเมื่อเทียบกะรร.อื่นที่เราพักในอิตาลี) ที่นี่จะต้องจ่ายเงินสดนะคะ สำหรับค่าโรงแรม

=========================

 สุดท้ายแล้ว โรงแรมใน Milan หรือ Milano เราพักกันที่ Hotel Florida ซึ่งอยู่ใกล้กับ Milano Centrale  สถานีรถไฟหลักของเมืองมิลานมาก เดินไม่เกิน 3 นาทีถึง ที่เราเลือกที่นี่เพราะตอนกลับเราจะต้องไปขึ้นเครื่องที่ Milan Linate Airport ก็เลยเลือกที่ที่ใกล้กับ shutter bus to airport เพื่อความสะดวกในการเดินทางเป็นหลัก  อันนี้เป็น website ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้

ที่ล็อบบี้ จะสังเกตได้ว่าโรงแรมนี้ค่อนข้างเก่าทีเดียว

 

ห้องพักเราเป็นแบบ Standard twin room

 

ห้องน้ำที่นี่เป็นแบบอ่าง แต่ไม่มีม่าน ทำให้เวลาอาบทีน้ำกระเด็นเลอะเทอะพอควร

 

วิวจากห้อง ก็ไม่เห็นอะไรตามเคย

อาหารเช้าที่นี่เริ่มตั้งแต่ 7 โมง ขนมปังล้วนๆอีกแล้ว มีแม่บ้านคนนึงเธอจะหน้าเศร้าๆ ผมดำ ชงช็อคโกแลตร้อนได้ข้นมากๆ

 

 

 

โดยรวม location ชนะเลิศ สะดวกมากในการเดินทาง โรงแรมเก่าไปหน่อย แต่ก็สะอาดนะ ตอนเค้ามา turn bed ตกใจเลย ห้องน้ำที่เราวางของระเกะระกะ เค้าเก็บให้ซะเรียบร้อยเลยทีเดียว ที่นี่มีลิฟต์นะ แต่ตัวเล็กมาก อารมณ์ว่าถ้าแบกกระเป๋าใบโต เข้าได้อย่างมากแค่ 1 คนก็เต็มลิฟต์แล้ว

จบแล้วคะสำหรับการรีวิวที่พักทั้ง 4 เมือง :)

ตามอ่านตอนต่อๆไปได้ที่
รีวิว เที่ยวอิตาลี (ตอนที่ 3) : Day 1 ประสบการณ์การบินกับ Airfrance และการเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองที่โรม (Rome)
รีวิว เที่ยวอิตาลี (ตอนที่ 4) : Day 2 When in Rome (โรม)