5/5/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 5 พ.ค. 56 ตลาดอื่นเขา New high แต่ SET?

จากความเดิมตอนก่อนหน้า อุตส่าห์มองว่าตลาดดูไม่แย่ หน้าแตกเลย ตลาดยังลงต่ออีก 1 วัน >< แต่ก็ยังยืนยัน ยังไม่เปลี่ยนมุมมอง 
พยายามคิดบวกว่า "Correction makes the bull healthy" จะไปต่อได้ไกลๆน่าจะลงมาปรับฐาน ซึมซับแรงขายบ้าง แต่อย่าหลุดจนเสียทรงหละ แล้วก็หวังว่าจะไม่ได้กำลัง form Double top
ตลาดไทยเป็นไทมากกกกช่วงนี้ จัดว่าเกรียนใช้ได้ 555 ....ตลาดหุ้นอื่นที่ SET มักจะเคลื่อนไหวตาม เค้า new high กันไปแล้ว
  • DJIA
  • DAX
  • PHCOMP
 
  • JKSE
ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าตลาดไทยจะเอาอย่างไรต่อ เรายังห่างจาก high ช่วง crisis มาก แต่ recent high มีลุ้น ช่วงนี้ยอมรับว่าดูยากจัง ปัจจัยภายในมีผลซะเยอะกว่าปัจจัยภายนอก -_-
 

โดยเฉพาะเรื่องค่าเงินบาท เถียง เอ๊ย ถก กันไปมา โดยไม่ต้องใช้เงินซักบาทหรือออกมาตรการใดๆในการแทรกแซงก็อ่อนค่าลงมาซะ
ในความเห็นส่วนตัว ยังเชื่อในเรื่องของกลไกตลาด แทรกแซงไปมันก็ได้แค่ชั่วคราว สุดท้ายก็กลับมาที่ equilibrium  ณ จุดที่มันควรจะเป็นตามปัจจัยพื้นฐานของประเทศ จริงๆแล้วน่าคิดว่าเศรษฐกิจไทยยังขับเคลื่อนด้วยส่งออกเหมือนแต่ก่อน หรือ domestic consumption/investment เป็นตัวขับเคลื่อน ภาคส่งออกสาเหตุที่ชลอตัวลง นอกจากค่าเงินบาทที่ไม่ทำให้ competitive แล้วมัน slow down ลงตาม global economy ด้วยรึป่าว? ถ้าหากเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วง CAPX phase จริงๆ ทั้งการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ซึ่งจุดนี้จะ spill over ไปยัง domestic consumption ด้วย การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าน่าจะช่วยให้นำเข้าสินค้าทุนได้ถูกลง net off แล้วคุ้มกว่ากันรึป่าว? แต่อย่างว่ามีหลาย dimension ให้พิจารณา การลงทุน แถมเน้นจะกู้เยอะ(อยากกู้ในประเทศมากกว่า) ต้องดูด้านสภาพคล่องในระบบว่าเอื้อหรือไม่ แถมต้องคุม debt/gdp ให้ต่ำกว่า 60% ถ้าหาก GDP ไม่เกิดตามที่คาด debt เป็นสิ่งแน่นอน เดี๋ยว debt/gdp จะปูดเอา debt นี่ก็รวมทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย ก็ไม่แปลกที่อยากจะกู้เงินด้วย cost of fund ที่ถูกลง นี่ยังถือว่าโชคดีที่ไม่นับเอาหนี้ที่ SOE ไปค้ำประกัน/ประกันราคาต่างๆเข้ามารวมนับใน GDP ด้วย ไม่งั้นตัวเลขคงจะน่าตกใจกว่านี้ไม่ใช่น้อย

ไม่รู้ว่าประเด็นเรื่องค่าเงิน จะมีผลต่อการลงทุนมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าฝรั่งมองว่าบาทจะยิ่งอ่อนต่อ ก็คงจะยิ่งขายออก take profit กันไป แต่ถ้ามองว่ากลับมาแข็งใหม่ก็อาจจะยังกลับเข้ามาลงทุนต่อก็เป็นได้ แต่ในเรื่องของการลงทุน ปัจจัยเยอะกว่านั้นมาก ยิ่งเค้าเป็น global view การลงทุนเป็นการมองในระดับ asset class และทางเลือกในการลงทุนนั้นมีมาก เงินก็มักจะไหลไปยังที่ที่เค้าเห็นโอกาสในการลงทุนดีกว่าเสมอ

อีกจุดน่าสนใจหนึ่ง คือ กองทุนเป็นฝ่าย net sell ในช่วง 5 วันทำการหลังนี้ติดๆกัน รวม 4248 ล้านบาท ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเห็นว่า index กลับมา high เดิม มอง limited upside หรือว่ามีกอง trigger fund ของที่ไหนถึง target หรือเปล่า
จะว่าไป trigger fund นี่ก็เป็นดาบสองคมเหมือนกันนะ ตอนตลาดตกก็ดีตรงที่ออกมาพยุงตลาด แต่พอตอนตลาดขึ้นก็โดยแรงขายจากตรงนี้ บางคนอาจจะชอบกองสไตล์นี้ แต่อยากให้พิจารณาจุดนึงเหมือนกันว่ามันเหมือน limited gain/unlimited loss และอีกจุดหนึ่ง คือ market timing ของการลงทุนสไตล์นี้จะต้องเป๊ะมากพอควร

วันนี้บ่นยาวเลย พรุ่งนี้ตลาดไทยปิดแต่ตลาดโลกเปิด มาลุ้นกันว่าหลังจากวันหยุดยาว ตลาดไทยจะกลับไปตามตลาดโลกหรือไม่ หรือว่าจะเกรียนต่อไป :P

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น