26/7/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 25 ก.ค. Local Players

ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว เพิ่งจะ Break out ไปได้ไม่กี่วัน ตอนแรกผ่าน 1500 ไปได้อย่างง่ายดาย ไอ้เราก็ลุ้นให้ไปให้ถึง 1530 แต่ปรากฏว่าไปไม่ถึงฝั่งฝัน  ทำ high รอบนี้ได้แค่ 1521.35 ก็โดนหมีตะปบกลับลงมาอีกแล้ว
ใช้เวลาในการพยายามขึ้นอยู่ 3-4 วัน วันนี้เจอ bearish engulfing ดอกเดียวเข้าไปทำพยายามมาก่อนหน้าดูไร้ค่าไปเลย SET กลับมาอยู่ใต้ MA อีกครั้งนึง แนวรับสำคัญถัดไปก็คงเป็น SMA200D ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 1449.22 วันนี้ RSI อ่อนแรงลงมาอย่างไว พร้อมกัน ATR ที่กระดึ้บๆขึ้นมาอีกครั้ง.....น่าสังเกตอยู่อย่างนึงว่าตลาดไทยเดี๋ยวนี้ขึ้นลงเบาๆไม่เป็นแล้ว move แกว่งแรงขึ้นเรื่อยๆ

ทำไมตลาดลง?
เบื่อคำถามนี้เนอะ ก็จริงๆแล้วมันก็แค่คนอยากขายมากกว่าคนอยากซื้อก็เท่านั้น

แน่นอน คนต้องหาเหตุมารองรับการลงสำหรับรอบนี้
ข่าวที่สนับสนุนก็คงจะเป็นเรื่อง การที่สภาจะเปิดสมัยประชุมในเดือนสิงหาคม และมีการนำเรื่องพรบ.นิรโทษกรมเข้ามาเป็นวาระแรกก่อนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ....เรื่อง political uncertainty ก็กลับมาเป็นปัจจัยกังวลให้ตลาดอีกครั้ง นี่คงเป็นเหตุให้ตลาดไทยดราม่ากว่าตลาดอื่น

ส่วนตัวแล้ว เป็นคนไม่ชอบเรื่องการเมืองเลย ไม่ค่อยติดตามด้วยความรู้ความเข้าใจด้านนี้อ่อนด้อยมาก เพราะไม่อยากจะสนใจ ใครจะกลับประเทศได้ไหม ใครจะสีไหน ขออย่าแค่ทำให้ประเทศวุ่นวายเดือดร้อน แค่นี้ก็พอแล้ว....จริงๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ไป focus ที่พ.ร.บ. 2 ล้านๆ แทน focus ไปที่จุดที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย วันก่อนได้มีโอกาสไปฟังดร.ชัชชาติพูดในงานสัมมนา ชอบมากที่ท่านบอกว่าคนไทยไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับค่าของเวลา โปรเจคโน่นนั่นนี่เราคิดมาเป็น 10ๆ ปี จนประเทศอื่นเค้าทำไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ยังคิดอยู่นั่นแหละ....เรื่องโปรเจคพวกนี้ เราไม่ควรจะไปจ้องจับผิดกับที่ว่าใครจะโกงกินบ้านเมือง เราควรดูก่อนว่าโปรเจคนั้นสมควรทำหรือไม่ ให้ประโยชน์อย่างไรต่อประเทศชาติ สร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันให้กับประเทศได้อย่างหลัง ส่วนเรื่องคอร์รัปชั่นนั้นต้องแยกเป็นอีกประเด็น ให้เฝ้าระวัง ให้ตรวจสอบมากกว่าที่จะเอาประเด็นพวกนี้นำ ทำให้โปรเจคไม่เกิด

กลับมาเข้าเรื่องตลาด

ดูจากยอดซื้อขายทุกวันนี้แล้ว เดาว่าฝรั่งคง neutral กับบ้านเราไปแล้ว ซื้อเล็กๆขายเล็กๆ ไม่จัดหนักเหมือนแต่ก่อน คนที่ขายไปแล้วก็คงยังไม่รีบกลับมาซื้อใหม่(มั้ง) คนที่ยังถืออยู่จนป่านนี้ถ้าไม่มีเหตุอะไรผิดจากเค้าคาดมากเค้าก็คงถือ เทรดบ้างเล็กน้อย(มั้ง) ค่าเงินบาทก็ยังไม่ค่อยเป็นใจ....อย่างที่เคยเขียนๆไป Asset allocation/rotation มันน่าจะ move จาก EM to DM แล้วตลาดบ้างเราก็ขึ้นมาต่อเนื่องหลายๆปีที่ผ่านมา ปัจจัยภายในประเทศเราเองก็ไม่ได้เหมือนก่อนที่พื้นฐานดีและยังถูก ก็เป็นโอกาสอันดีที่เค้าจะ take profits กลับไป หวังพึ่ง fundflows ได้ยากหน่อย (แค่เค้าไม่ขายเพิ่มก็ดีมากแล้ว)

จริงๆ ทั้ง TIPs flows ค่อนข้างไปในทางเดียวกัน คือ ออกแล้วยังไม่กลับเข้ามา แต่กราฟนี่ SET นี่อ่อนสุดใน TIPs เลย
คงจะต้องดู player ในไทยเป็นหลัก นั่นก็คือ กองทุน Prop trade รายย่อย ที่น่าจะเป็นคน move market direction ในช่วงต่อไปจากนี้
  • กองทุน - ผู้ซึ่งเป็น net buyer สำคัญของปีนี้ ไม่รู้ว่าด้วยตลาดกองทุนรวมที่ใหญ่ขึ้น ผู้คนหันมาสนใจลงทุนในหุ้นมากขึ้น มีการ shift ออกจากสินทรัพย์อื่นมาเข้าหุ้น (โดยเฉพาะภาวะดอกเบี้ยต่ำ) ด้วยหรือไม่ที่ทำให้ AUM ใหญ่ขึ้นและเมื่อมี unit creator แน่นอน กองทุนก็ต้องเป็น net buy...อีกหนึ่งปัจจัยนึงคงหนีไม่พ้น Trigger fund ที่ออกมาเยอะมากในยามตลาดตก ตอนตลาดดีๆ กองพวกนี้ขายดีมาก แป๊บๆก็ทริกเกอร์แล้วคิดว่าง่ายๆ พอตลาดมันไม่ใช่ uptrend อย่างแต่ก่อน น่าจะดอยกันอยู่ไม่น้อย ล่าสุดพอตลาดขึ้นมารอบนี้คนก็กลัวว่าจะเจอแรงขายจาก trigger fund เหล่านี้ แต่เท่าที่ตามข่าวมีกองที่ปิดได้เพียงแค่ 2 กองของ TISCO มูลค่ารวม 690 ล้านบาท ...สรุปง่ายๆ กองปกติ ถ้ามีเงินเข้าเยอะ กองก็คงเป็นฝั่งซื้อ ถ้ามีเงินออกเยอะ กองก็คงเป็นฝั่งขาย สัดส่วน cash ในพอร์ตก็แล้วแต่ Fund manager จะจัดการว่าจะให้มีมากน้อยแค่ไหน อยากมีมากก็ขายมาก อยากมีน้อยก็ซื้อหุ้น ถ้ามีกองทริคเกอร์ออกมาใหม่ก็คงจะมาแรงซื้อจากตรงนี้เข้ามาบ้าง (แต่เท่าที่สังเกต กองใหม่ๆที่ออกขายได้น้อยลงเรื่อยๆ) ส่วนขึ้นไปตลอดทางก็เจอกองทริกเกอร์รอดักขายอย่างแน่นอน คือ ถ้าไม่ปิดตัวไปเพราะถึง target เมื่อครบกำหนดอายุกองก็คงมีแรงขายคืนเงินผู้ถือหน่วย
 
  • Prop Trade - อันนี้จัดเป็นกองเสริม พวกนี้ดูแล้วจะไปตามเทรนด์ วันไหนมองขึ้นพี่ท่านก็จะยิ่งเสริมแรงกระทิง แต่ถ้าแบบวันนี้มองลงนี่ก็แปลงร่างเป็นหมีตบไม่เลี้ยง ไม่รู้เหมือนกันว่ามี Prop trade นิมันเสริมสร้างคล่องให้กับตลาดหรือทำลายเม่าในตลาดกันแน่ ยิ่งวันไหนสภาพคล่องน้อยๆ พวก Prop trade มีอิทธิพลกับตลาดมากเหลือเกิน นอกจากแรง speculative แล้วยังมีแรง Arbitrage อีก 
 
  • รายย่อย - ย่อยไทยรอบนี้เมพสุดๆ ตลาดลงซื้อ ตลาดขึ้นขายตลอด รายใหญ่ๆพวก big leg ที่จัดเป็นรายย่อยนี่ก็เป็น market maker ให้กับหุ้นได้อย่างดี (หน้าตากราฟยอดซื้อขายของรายย่อยดูเหมือนกองทุน? ก็เงินกองทุนก็เป็นเงินรายย่อยนินา :P)
 
เนื่องจากเดี๋ยวนี้หากินได้ทั้งตลาด spot และ future มาดูตลาด Future กันบ้าง วันนี้โหดมากๆหลุดทุก timeframe แต่ที่โหดกว่าคือ ทั้งวันพี่ท่านจะเลี้ยงให้ basis แคบก่อน หลอกให้ตายใจว่าอยากขึ้น พอไล่ขึ้นไป คราวนี้ทุบไม่เลี้ยง เถื่อนจริงๆ
สถานะโดยรวมตอนนี้กอง+ปอบเป็น net short 
 แนวรับถัดไปของ SET 
สรุป ตลาดตอนนี้คงเป็นผู้เล่นในประเทศเป็นตัวกำหนดเป็นหลัก.....ใครใจไม่ถึง ไม่ชอบเหวี่ยงประเภทลุกไปเข้าห้องน้้ำกลับมาจำราคาไม่ได้ พวกกลัวประชุมแพง ควรอยู่นิ่งๆเถอะกะตลาดแบบนี้ sideways กรอบกว้างและ high volatility ขนาดนี้ kill momentum trader ชัดๆ ซื้อเบรคโดนตีหัวตลอด ถึงจุดคัทพี่ท่านเด้งมาให้ช้ำใจอะไรทำนองนี้ @_@

แต่ถ้าใครจะเล่น ก็เลือกตัวแกร่งๆกว่าตลาด 
"Price are not too high to begin buying and not too low to begin selling. Stocks showing high relative strength are likely to continue increasing in prices and it's better"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น