19/3/60

รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนจบ) : Paris (ปารีส)

ความเดิมตอนที่แล้ว
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 1) : เตรียมตัวเที่ยวด้วยตนเอง
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 2) : บูดาเปสต์ (Budapest)
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 3) : เวียนนา (Vienna)
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 4) : Salzburg (ซาลส์บวร์ก)



มาถึงตอนจบกันซะทีคะ เขียนมาหลายเดือนมาก เที่ยวแค่ 10 วัน :D 
เราจะมาปิดท้ายทริปของเราที่ปารีสกัน จริงๆ เราก็เพิ่งมาปารีสเมื่อตอนเดือนเม.ษ.ที่ผ่านมานี่เอง แต่ยังไม่มีเวลาเขียนรีวิวเลย มารอบนี้มีเวลาแค่วันกว่าๆ เลยเป็นรีวิวเที่ยวปารีสฉบับย่อไปก่อนหละกันนะคะ 

หลังจากนั่งเครื่องมาจากปรากแล้ว ดีเลย์กว่าแผนนิดหน่อย แต่พอมาถึงแค่รอกระเป๋า ก็ออกจากสนามบินได้เลย ไม่่เจอตรวจคนเข้าเมืองอีก ก็เร็วมาก กระเป๋าก็ได้เร็ว คาดว่าเป็นเพราะบินในยุโรป คนเค้าไม่ค่อยโหลดกระเป๋ากัน ....พอได้กระเป๋าปุ๊บ เราก็ไปขึ้น bus air france เหมือนเป็น airport shuttle bus เข้าเมือง เค้ามีทั้งหมด 4 สายนะคะ แล้วแต่ว่าเราจะไปลงที่ไหน อย่างเราไปลง Champs Elysees เพราะพักแถวนั้น ก็นั่งรถสายสองไป ซื้อตั๋วได้บนรถเลย ถ้าซื้อไปกลับ จะถูกกว่าหน่อย ราคาเที่ยวเดียว 17 ยูโร....นั่งไปชั่วโมงกว่าๆก็ถึงที่หมาย แต่รถก็ติดพอควรเลยแหละ
เราเลือกพักที่ Elysées Ceramic ซึ่งเป็นที่เดิมกลับรอบก่อนที่เรามาพัก เนื่องจากราคาพอรับได้ ที่ปารีสนี่ค่าโรงแรมโหดนะคะ หลังจากไปพักถูกๆใน eastern europe มา มาต่อปารีสนี่คูณสองกันเลยทีเดียวสำหรับราคาต่อคืน...นอกจากราคาแล้วก็เป็นเพราะโลเคชั่นคะ อันนี้อยู่ใกล้กับแหล่งช็อปปิ้งอย่าง Champs Elysees และอยู่ใกล้ที่เที่ยวอย่างประตูชัย Arc de Triomphe และที่สำคัญไปกลับ airport ได้ง่าย เพราะใกล้แหล่งขึ้นลง airport shuttle bus รถ Metro ก็ใกล้เดินนิดเดียว 

มาดูห้องพักกัน เล็กๆ แต่ก็สะอาด 


หลังจากถึงที่พัก เราก็รีบออกไปทานข้าวคะ จริงๆจองร้านไว้ที่ Au petit sud ouest ที่คราวที่แล้วเราพลาดไม่ได้ไปทานเนื่องจากไม่ได้จองล่วงหน้า walkin ไปแล้วเต็มรอบนี้ก็เลยต้องแก้มือ ...จริงๆ ไปสายกว่าเวลานัดหมายด้วยเนื่องจากเครื่องบิน delay แต่พอถึงโรงแรมก็ฝากให้พนักงานที่โรงแรมโทรไปเลื่อนเวลาที่ร้านให้บอกเค้าว่าจะไปสายหน่อย...สุดท้าย รอบนี้ก็ได้ทานจริงๆซะที 

มาถึงร้านคะ 
 จริงๆร้านนี้เค้าดังเกี่ยวกะเป็ดทั้งหมด เน้นหลักๆ ก็ foie gras ตับบด ใครสนใจซื้อกลับบ้านเค้าก็มีขาย
 แน่นอนอาหารพวกนี้ต้อง pairing กับไวน์ ก็มีหลากหลายให้เลือก
บรรยากาศภายในร้าน

บนโต๊ะทุกโต๊ะจะมีเครื่องปิ้งขนมปังไว้ให้
มาถึงอาหารที่สั่งกันบ้าง จานนี้เป็นสลัดเห็ด ดีงามมาก 
 ทีเด็ดของที่ร้าน Foie gras มาชิ้นใหญ่มาก ปกติเราก็ชอบทาน foie gras นะ แต่แค่ไม่ทันหมดชิ้นก็เลี่ยนแล้ว 
 เป็ดซอสส้ม อันนี้ก็อร่อย เป็ดร่อนมาก
 ค่าเสียหายมือนี้ 
เนื่องจากร้านนี้อยู่แถวๆ Champ de mars หลังจากทานเสร็จก็ดึกพอควร เกือบสี่ทุ่มได้ เราก็ไม่อยากเที่ยวกันเองผู้หญิงสองคนในปารีสยามค่ำคืนดึกมาก ก็เลยทำเวลา เดินไปดูหอไอเฟลจากหลายๆมุม แถบนั้นก่อนกลับโรงแรม โดยไล่จาก  Champ de mars ไปจบที่ trocadero 
 ที่ปารีสอากาศหนาวน้อยกว่าแถบ eastern europe มากๆ คือ จาก -6 มาเจออุณหภูมิประมาณ 8 องศา นี่รู้สึก warn ขึ้นทันที และรู้สึกว่า overdressed มาก ณ จุดนั้น ฮ่าๆ 
 ตรงฐานของ Tour Eiffel เดี๋ยวนี้เค้ามีกั้นเพื่อตรวจคนเข้าออกเพื่อความปลอดภัยทั้งสองด้านเลยไม่ว่าเราจะเดินมาจากทางchamp de mars หรือ trocadero ตอนเรามาช่วงเดือนเม.ษ.ยังไม่มีกั้นเลย กว่าจะเข้าไปได้ก็เสียเวลาเหมือนกัน
 ทุกชั่วโมงจะมีเปิดไฟกะพริบที่หอไอเฟล ก็สวยไปอีกแบบ ดูวิ้งๆ 
 จากนั้นก็ไล่มา ข้ามแม่น้ำ seine
 หลงรักปารีสตอนกลางคืนส่วนนึงก็เพราะหอไอเฟลนี่แหละ
 มาจบที่ Jardins du trocadero ก่อนเราจะขึ้นรถไฟกลับไปที่พัก
เนื่องจากไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลง metro ปุ๊บก็เจอ Arc de Triomphe เลย ก็เลยขอแวะถ่ายรูปหน่อย 
 หันกลับไปด้านหลังคือ Champs Elysees ที่กลางคืนประดับไฟอย่างสวยงาม 

 วันที่ 9
วันนี้เที่ยววันสุดท้า่ยก่อนกลับแล้ว เราจะไปเก็บตกปารีสกัน ก่อนอื่นก็เริ่มที่ร้านกาแฟแถวโรงแรมก่อนเลย มิ้อเช้าแบบ Parisian ก็ต้องกาแฟกะครัวซองค์ 
ร้านที่นี่ขายทั้งเหล้าและกาแฟ เป็นทั้งคาเฟ่และบาร์
 กาแฟแก้วนี้ไม่ได้อยู่ในเซ็ต น้ำตาไหล แพงมาก 12 ยูโรได้มัง
 สั่งเป็น set ถูกกว่า อันนี้ประมาณ 10 ยูโร มี hot choc น้ำส้ม ขนมปัง
  
จากนั้นเราก็จะไปที่ Cathédrale Notre-Dame de Paris ลง metro ระหว่างเดินไปก็จะเจอ hotel de ville ก่อน อารมณ์ประมาณศาลาว่าการปารีส 
วันนีหมอกลงจัดมาก 
ที่ด้านหน้าของ Notre-Dame ก็จะมีสะดือปารีส หรือ paris zero อยู่ หลักกิโลเมตรที่ 0 ของปารีส 
 ด้านหน้าของ Notre-Dame
 ดูรายละเอียด สุดๆอ่ะ

 
เข้ามาด้านใน ตอนมาเม.ษ. ไม่มีประดับคริสต์มาสแบบนี้นะ
 และมีพิเศษ คือ จัดพวก  miniature เล็กๆแบบนี้ เล่าเรื่องราวต่างๆ
 ซูมๆดูใกล้ๆ




 แบบจำลอง Cathédrale Notre-Dame de Paris ทั้งหลัง
 อื่นๆด้านในโบสถ์
 กระจกสี สวยงาม เค้ามีเรื่องราวนะแต่ละอัน






 ออกมาด้านหน้าโบสถ์กันอีกรอบ เราจะขึ้นไปชมด้านบนของ Notre-Dame ต้องออกไปต่อแถวข้างๆโบสถ์ คิวยาวอยู่คะ รอประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชม.ได้ พอเข้ามาด้านในก็ซื้อบัตรเข้าชม
 คนละ 10 ยูโร
 ขึ้นมาด้านบน ขึ้นบันไดมานะจ๊ะ เหนื่อย แบบไหวอยู่ จะเจอพวก gargoyle เฝ้าเมืองปารีสอยู่

 อย่างที่บอกวันนี้หมอกลงหนามาก ขนาดที่ว่าสามารถบังไอเฟลได้ ไอ้ที่วงแดงๆในรูปด้านล่างคือไอเฟลนะ โดนหมอกกลืนไปหมด คราวก่อนเรามาเม.ษ.ฟ้าใส ก็จะเห็นวิวเมืองจากด้านบน วันนี้มาก็เฟลเล็กๆ


 นี่คือคิวเข้าโบสถ์ ซึ่งโชคดีมาก ตอนเราเดินเข้าไม่ต้องต่อคิวเลย นี่แหละข้อดีของการมาเช้า มาสายปุ๊บ ต้องเจองี้

 แม่น้ำเซน เสียดายเนอะหมอกลง
 ลงมาด้านล่างคะ เดินเลียบไปด้านข้างของนอร์ทเทอดาม


 ด้านหลังของนอร์ทเทอดาม
เดี๋ยวเราจะเดินข้ามไปยังเกาะ sainte louise 
 เป้าหมายหลัก คือ ร้านไอติมอันดับหนึ่งของปารีส Berthillon
 มีให้เลือกหลายรส จะใส่โคนหรือถ้วยก็ได้
 คนเต็มร้าน ทั้งมาซื้อติมและซื้อขนม เพื่อนเราซื้อช็อกโกแลตกลับไปบอกอร่อยมากกกก
 หนาวแค่ไหนก็ต้องกินเจลาโตที่นี่ ดีงาม
 จากนั้นเราก็เดินกลับมาเพื่อไปต่อกันที่ Sainte-Chapelle ที่เราชอบมาก โบสถ์สีชมพูด้านใน ต่อคิวกันซื้อตั๋วก่อน
 คนละ 10 ยูโร

 ชั้นล่าง พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
 ขึ้นมาด้านบน ขอให้ชมความงามของกระจก


 กระจกกุหลาบชื่อดัง


 จากนั้นเราก็จะเดินทางออกไปยัง Louvre Museum ลง metro ตอนออกจากสถานีก็เดินไปหาเจ้าสิ่งนี้ ปิรามิตแบบในหนัง angel and demons
 อยู่หน้าห้างเลย
 เดินออกมาด้านหน้า ไปยังประตูชัยเล็กอาร์ก ดู การ์รูแซล อยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ลูฟ
 Louvre Museum รอบนี้เราไม่ได้เข้าชมด้านในนะคะ เพราะเคยเข้าไปแล้ว และก็มีเวลาจำกัดด้วยรอบนี้



 ถ่ายรูปแค่ด้านหน้า จากนันก็ไปแวะกิน hot choc แก้หนาวที่ราน angelina ร้านดังที่คนเยอะมาก คราวที่แล้วก็รอคิวนานมาก แต่ มองบลังขนมชื่อดังเราว่าเฉยๆ รอบนี้เลยซื้อเป็น hot choc แบบ take away แทน


 แล้วจากนั้นก็ไปที่ st honore แหล่งช็อปปิ้ง hi ended brand แทน และสำหรับทุกคนที่จะมาซื้อ hermes ก็ต้องมาสาขานี้ มี Tips มาฝากนิดนึง ระบบในการซื้อ hermes ที่นี่เปลี่ยนไป สำหรับคนที่ซื้อของอื่นๆ ที่ไม่ใช่กระเป๋า สามารถสอบถามและซื้อกับพนักงานได้เลย แต่ถ้าคนที่อยากซื้อกระเป๋านางเปลี่ยนระบบคะ ตอนเรามาตอนเม.ษ. เป็นเข้าคิว ถ้าตอนถึงคิวเราใบที่ตามหามีก็ได้ไป ไม่มีก็อด แต่พอมารอบนี้ตอนเดือนธ.ค. นางให้ลงทะเบียนใน app ของ hermes เพื่อรอคิว ซึ่งพอใกล้ๆถึงคิวเราจะมี sms มาแจ้งในมือถือเราว่าใกล้ได้คิวแล้วนะให้ไปที่ร้าน ....ปรากฏว่าเราไปถึงร้าน 4 โมงกว่าจะได้คิวปาไป 6 โมง ก็เดินเล่นรอไปซิคะ ....สุดท้ายพอถึงคิวก็เหมือนเดิม นางจะถามว่าอยากได้อะไร ก็บอกไป สรุป ไม่มีตามที่อยาก อ่าว แล้วให้รอเพื่อ!!! ..failed กันไป แต่นางก็ดีนะ รุ่นอื่นมีหมด รุ่นที่อยากได้ไม่มี มีความใจดีแนะนำเราอีกหน่อยว่าอยู่ถึงวันไหนเผื่อหาของได้จะได้แจ้งไป พอเรากลับวันพรุ่งนี้แล้ว นางก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก sorry จบคะ

จากนั้นก็ไปช็อปปิ้งเก็บตก หายไปหลายชั่วโมงและไม่มีรูปใดๆ :D เพราะจะกลับวันพรุ่งนี้แล้ว ต้องเก็บให้ครบ
 สุดท้าย ทำเพื่อนหิวมาก มื้อเย็นประมาณ 4 ทุ่ม แถมต้องไปรอคิวอีกเกือบชม.ที่ร้าน Chartier กว่าจะได้กินเกือบ 5 ทุ่
 อร่อยทุกจานแถมไม่แพงร้านนี้




กลับโรงแรม แพ็คของ เตรียมตัวกลับบ้านเช้าวันพรุ่งนี 

สำหรับวันที่ไปสนามบินวันกลับ เรากลับ TG ซึ่งออกจาก terminal 1 ระบบในการจัดการที่สนามบินแย่มาก เราไปถึงสนามบินก่อนตั้ง 3 ชั่วโมง เกือบตกเครื่อง เพราะว่าคนเยอะ และก็จัดการช้ามาก ตรวจ passport รอบแรกขานึงแล้ว แล้วก็ไปมีตรวจสัมภาระตอนขึนเครื่องอีกรอบนึง เรียกได้ว่า boarding แล้วยังอยู่ตรงใกล้ๆ gate เพื่อตรวจสัมภาระอยู่เลย ....ลุ้นมากกลัวตกเครื่อง แต่ถ้าตก เพื่อนร่วมชะตากรรมเพียบ....ซึงคราวก่อนเราก็กลับจาก CDG แต่สายการบิน etihad น่าจะใช้ terminal 2 ไม่มีปัญหาเช่นนี้เลย รวดเร็วและสมูทมาก

สุดท้ายเรื่องสำคัญก่อนกลับ ก็คือการทำ tax refund ห้ามลืมเลย ที่ terminal 1 เราจำชั้นไม่ได้เป๊ะนะ ผ่านมานานกว่าจะมาเขียน คือ ลงไปยื่นเอกสารด้านล่าง ตื๊ดกะเครื่องสำหรับรายการที่เราขอคืน tax ถ้าเขียวผ่านหมดก็ไปขอเงินคืนได้เลย โดนไม่ต้อง declare ของ ซึ่งถ้าจะเอาเงินคืนที่ชั้นนั้นเลย เค้าจะให้เราคืนเป็น US dollar ซึ่งจะโดน spread ไปอีกนอกจากค่า commission แนะนำให้ขึ้นมาชั้นที่ check in จะได้คืนเป็น Euro โดนแค่ค่า commission 3 euros มั้งไม่ต้องเสีย spread 

จบแล้วคะ ขอบคุณที่ติดตาม :) 

บทสรุปประจำทริปนี้ คือ eastern europe สวย ธรรมชาติ เมืองแต่ละเมืองเล็กๆน่ารักดี แต่ไม่ได้ว้าวมากอย่างที่เคยจินตนาการก่อนมา แต่มาก็ไม่ผิดหวัง ค่าครองชีพถูก อาหารพอใช้ มาเที่ยวช่วงธ.ค. อากาศเริ่มหนาวแล้วลำบากเหมือนกันเวลาเที่ยว สว่างช้า พระอาทิตย์ตกดินเร็ว 5 โมงเย็นก็มืดแล้วเวลาเที่ยวน้อย แต่แถบนี้ไม่น่ากลัวเลยสำหรับการมาเที่ยวผญแค่ 2 คน ไม่มีขโมยไม่น่ากลัว แต่ก็ต้องระวัง ชอบบรรยากาศ x'mas ที่นี่....เมืองที่เราชอบสุดน่าจะเป็น budapest แสงสีตอนกลางคืนของเมืองทำให้หลงรัก... ตัดภาพมาที่ปารีส เอาจริงๆ ว่าแม้เคยมาแล้ว แต่ก็ยังต้องมนต์กับหอไอเฟลอยู่ สวยมากตอนกลางคืน สวรรค์ของการช็อปปิ้งโดยแท้ หนาวน้อยกว่า eastern europe มาเที่ยวต้นธค พอไหวไม่ทรมานมาก ความน่ากลัวของปารีสเรื่องขโมยช่วงนี้น้อยกว่าเม.ษ.มาก เห็นเพราะว่าไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยว โจรเลยไม่ออกมาทำงาน...สุดท้ายคงต้องหาโอกาสกลับมาเยือนอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น