22/1/60

รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 5) : Hallstatt (ฮัลล์สตัท)

ความเดิมตอนที่แล้ว
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 1) : เตรียมตัวเที่ยวด้วยตนเอง
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 2) : บูดาเปสต์ (Budapest)
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 3) : เวียนนา (Vienna)
รีวิว เที่ยวยุโรปตะวันออก+ปารีส (ตอนที่ 4) : Salzburg (ซาลส์บวร์ก)
วันที่ 5
วันนี้เราจะออกเดินทางไป hallstatt กันคะ ตอนก่อนมา ที่นี่น่าจะเป็นที่ที่เราอยากมาที่สุดของทริปเลยมั้ง จัดเป็นหนึ่งใน dream destination ว่าชีวิตนี้ต้องมาเยือนให้ได้ เพราะเห็นรูปมาหลายต่อหลาย มุมมหาชนนั้นสวยทุกฤดู อีกอย่างติดใจเมืองทะเลสาปตั้งแต่ตอนไป lake como แล้วด้วย เลยคิดว่าที่นี่ต้องงามแน่ๆ มาดูกันคะว่าจะเป็นอย่างไร 
เราออกเดินทางจาก salzburg ไปยัง hallstatt การเดินทางก็ทำได้หลายวิธีนะคะ จะนั่งรถไฟแล้วไปต่อเรือข้ามฟากก็ได้ หรือจะนั่งรถเมล์ไปต่อรถไฟแล้วต่อเรือข้ามฟากอีกทีก็ได้ ส่วนเราหลังจากอ่านมาหลายวิธีแล้ว ตกลงปลงใจกันที่นั่งรถเมล์คะ เพราะว่าวิวระหว่างทางจาก Salzburg Hbf ไปยัง Bad Ischl Bahnhof มันดีมาก 
จริงๆระหว่าง salzburg ไปยัง hallstatt มีเมืองระหว่างทาง คือ St Wolfgang ที่จะเห็นทะเลสาป Wolfgangsee ที่สวยมาก แต่เราติดด้วยว่าการย้ายเมืองมีสัมภาระ กระเป๋าใบใหญ่กลัวว่าจะลำบาก ก็เลยตัดใจ ข้ามตรงนี้ไป เอาเวลาไปเดินเล่น hallstatt แทน // และอีกที่นึงที่น่าไปเที่ยวมากๆ แต่เราไปตอนธันวา ซึ่งเข้าหน้าหนาวแล้วมันปิด ก็เลยอดไป นั่นก็คือ dachstein salzkammergut (ที่เป็น ice cave) และ five fingers (จุดชมวิวเมือง hallstatt) ...ถ้าใครมีเวลา ไปลองดูนะคะ พิมพ์ไปแล้วยังเสียดาย อยากไปอยู่เลย 
มาเข้าเรื่องเรากันคะ จากโรงแรมเราก็เดินมาที่สถานี Salzburg Hbf ที่เดียวกะสถานีรถไฟนั่นแหละหันหน้าเข้าสถานี ป้ายรถเมล์อยู่ด้านซ้ายมือคะ เราจะนั่งสาย 150 ไปลงกันที่ Bad Ischl Bahnhof ซื้อตั๋วได้บนรถเลย เช็ครอบรถจากใน website เค้าได้คะ จำค่ารถไม่ได้ว่ากี่ยูโร น่าจะนั่งไปสุดสายเลย แต่ไม่ต้องห่วงมีป้ายบอกตลอดทางบนจอวิวระหว่างทางคะ สวยงามจริงๆ มองเพลินตลอดการเดินทางเลยทีเดียว มีจอดเป็นระยะๆ อันนี้ก็อดขึ้น มีกระเช้าขึ้นไปชมวิวบนเขา ใครวางแผนดีๆ เที่ยวได้อีกหลายที่เลยคะ แถบนี้ทะเลสาป ขนาดแค่ผ่านยังรู้สึกดี๊ดี
ไม่นานเราก็ถึงBad Ischl Bahnhof คะ จากนั้นก็ต่อรถไฟไป Hallstatt Bahnhof อันนี้เราซื้อตั๋วรถไฟไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งรอบที่ระบุไว้ในตั๋ว แต่ถ้าเราไม่ทันรอบนั้น มันก็จะ flexible ให้ไปอีกหลายชั่วโมงเลย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีทีเดียว ไม่ใช่พลาดรอบนั้นแล้วพลาดรถไฟเลยต้องไปซื้อใหม่ ค่ารถไฟ 8.4 ยูโรวันที่ไปมีเหตุ accident นิดหน่อยใน app บอก platform นึง แต่พอไปถึงจริงๆ platform ที่ app บอกไปอีกที่นึง รถไฟมาเวลาเดียวกันด้วย ดีนะขึ้นไปดูป้ายก่อนว่าผิด...พออีกขบวนมา แต่ดันมาคนละ platform ก็เลยไม่มีใครเดินไปขึน ดีนะ พนักงานมาบอกว่าจะไป hallstatt ให้ข้ามไป platform นั้น ทุกคนก็รีบเร่งขนกระเป๋าไป ก็เหนื่อยนิดนึง แต่ทันรถไฟคะ แค่ 20 นาทีก็ถึง Hallstatt Bahnhof ต่อสุดท้ายแล้วคะ ใช้เรือข้ามฟาก อีกคนละ 2.4 ยูโรวิวบนเรือ ระหว่างข้ามไป ทะเลสาปมันสวยจริงๆ เมืองที่รออยู่ข้างหน้าก็ดูสงบมาก ข้ามมา เดินไปจิ๊ดเดียวจากท่าเรือ ก็คือที่พักของเราเลย Seehotel Grüner Baum ตึกเหลืองๆเนี่ยแหละอยู่ตรงกันข้ามกับ Market Square เลย เนื่องจากมาถึงแล้วยังเข้าห้องไม่ได้ ก็เลยไปจุดชมวิวท็อปฮิตก่อนเลย หันหน้าออกจากโรงแรม เดินไปทางขวา ขึนเนินไปนิดๆ มีคนเดินไปตลอดแหละ ไม่ต้องกลัวจะหาไม่เจอ พอไปถึง นี่มันใช่เลย วิวที่เฝ้ารอ อยากมามาตลอด มุมโปสการณ์ด ที่เห็นโบสถ์ ตัวเมือง ภูเขา ทะเลสาป และท้องฟ้าอันนี้หน้าตาเรือข้ามฟากที่เรานั่งกันมา ตรงนี้จะมีรั้วเขียวติดอยู่ ถ่ายรูปวิวยังไม่เห็นปัญหาเท่าไร แต่ถ่ายคนก็จะลำบากนิดๆ
เรายืนถ่ายรูปตรงนี้อยู่นานเหมือนกัน เชื่อมั้ยรู้สึกเหมือนเป็นประเทศไทย 2 มีแต่คนไทยทังนั้น....แต่มุมมหาชน มันมีแค่นี้จริงๆคะ สำหรับ hallstatt แอบเศร้าตรงนี้ คือ สวยนะ แต่คือแบบว่ามีแค่นี้เองไง 
หันมาด้านหลังใกล้ๆกับจุดชมวิวมหาชนจะมีต้นไม้เลื้อยเกาะบ้านแบบนี้ ด้วยความที่อ่านรีวิวมามาก ก็เคยเห็นหลายๆคนถ่ายรูปเก๋ๆมุมประมาณนี้ประจำ ก็คิดว่าใช่ แต่จริงๆแล้ว ถ้ามีนางแบบจะไม่สามารถถ่ายให้เห็นทั้งหลังได้เลย เพราะระยะถอยมันไม่พอแม้เป็น lens ที่ wide แล้วก็ตาม... คือ จะบอกว่าไม่ต้องพยายามคะ ต้นไม้เลื้อยบนบ้านสีชมพูอยู่อีกที่นึง ตรงนี้ยังไม่ใช่ตอนเดินกลับ เห็นโบสถ์เต็มๆตอนนี้หิวมาก ก็เดินกลับมาจะมากินร้าน Cafe derbl ที่อยู่ตรง market square ตรงโรงแรมเรานั่นแหละคะ ปรากฏว่าปิด ไปร้านไหนๆวันที่เราไปก็ปิดหมด ร้านที่เปิด ก็ของหมดบ้าง สรุปลงเอยที่ร้าน พิซซ่าร้านนี้แทน ระหว่างรอ คือ หิวมาก ขอหยิบผลไม้ที่ซื้อมาจากซุปเปอร์ที่ salburg มากินหน่อย ....ไปเมืองหนาว เบอรี่นี่เป็น a must เลย เพราะอร่อยและถูกกว่าบ้านเรามาก ร้านนี้มีแต่พิซซ่า แต่รสชาติใช้ได้เลย ที่น่าทึ่งกว่าคือ มีพนักงานคนเดียว นางทำทุกอย่าง ตั้งแต่รับออเดอร์ ทำอาหาร เสริ์ฟ และเก็บตังค์ จากนั้นเราก็ไปเดินเล่นตรงริมๆน้ำแถวโรงแรมกันคะ ซึมซับกับบรรยากาศของ hallstatt กันหน่อย ตรงหน้าโรงแรมเรามีเป็นเหมือน pier ถ้าคิดไม่ออกว่าจะไปเดินไหน ก็ไปตรงนี้ก็ได้คะ มุมดีเหมือนกัน ตอนเราไปคือหนาวประมาณ -6 พื้นเริ่มจับน้ำแข็งบ้าง เดินๆก็ระวังลื่นคะ ตอนนี้ได้เวลา เข้าห้องพักได้ ไปดูห้องพักกันดีกว่าคะ เราพักเป็นห้อง Double Room with Balcony Facing the market square ขอบอกว่าเตียง ผ้าห่ม หมอน นอนสบายมากกกกกก ดูดวิญญาณสุดๆ นุ่มมากกก อันนี้เป็น complimentary วิวจากห้อง เห็นเป็น market square ห้องน้ำ จากนั้น ก็ได้เวลาไปตะลุยเมือง hallstatt กันอีกรอบ จากหน้าโรงแรมเราไปทางจุดชมวิวมหาชนแล้ว   (ทางขวา) รอบนี้เดินไปทางซ้ายกันบ้าง เดินไปเรื่อยๆ ตามทางรอบ lake เลยคะ ร้านค้าเปิดเรื่อยๆ ของพื้นเมืองยอดฮิตที่นี่ก็คือ เกลือ เพราะที่นี่มีเหมืองเกลือ ซึ่งน่าเสียดายมาก ช่วงที่เรามามันก็ปิดอีกแล้ว อดขึ้นไปดูเหมืองเกลือ ซึ่งข้างบนนั้นมีจุดชมวิวที่สวยมาก....ร้านต่างๆที่ปิดมากในช่วงนี้เห็นทางโรงแรมเค้าบอกว่าเนื่องจากว่า hallstatt เปิดมาตลอดทั้งปี ร้านค้าโรงแรมต่างไม่ได้หยุด ช่วงธันวาหน้าหนาว ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้เข้ามาเยอะมาก ก็จะถือเป็นช่วงหยุดของเค้าคะ มีจุดชมวิวอีกที่นึง ไม่เด็ดเหมือนวิวโบสถ์แต่ก็สวยดีนะ  บ้านสีชมพูที่มีไม้เลื้อยอยู่แถวนี้ แต่ตอนเราไปมันดึกแล้วมืดเลยไม่ได้ถ่ายมา ก่อนจะถึงมื้อเย็น เราแวะกินช็อกโกแลตร้อนร้านตรงข้ามโรงแรมซึ่งเป็นร้านขายกาแฟและ grocery ด้านหลัง หนาวๆ ได้จิบอะไรร้อนๆ นี่มันดีจริงๆ มื้อเย็นตอนแรกแพลนที่จะไปทานร้าน  Gasthof Zauner (Hotel Seewirt Zauner) แต่ก็ปิดเช่นกัน เราก็เลยจองโต๊ะทานในโรงแรมที่เราพักนั่นแหละ มา hallstatt ขาดไม่ได้ต้องกินปลาเทราส์ อร่อยจริงๆคะ สด ไม่คาวเลย ค่าเสียหายมื้อนี้ ประมาณ 50 ยูโร
เนื่องจากที่นี่มืดเร็วมาก แล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำ สรุปก็นอนเร็วกันซักวันนึงคะ 555
วันที่ 6
ตอนเช้ามาค่าที่พักรวมอาหารเช้าด้วย ทานที่ห้องเดิมกะที่ทานดินเนอร์เมื่อคืนก็เป็น line buffet ประมาณนี้ ก่อนเราจะออกเดินทางไปยัง cesky krumlov กัน ขอกลับไปที่มุมหาชนกันอีกซักครั้ง สั่งลา ตอนเช้านี่หมอกลงหนักมาก ก็สวย เหงาๆ ไปอีกแบบ เดี๋ยวตอนหน้ามาเล่าเรื่องการเดินทางและไปเที่ยว cesky krumlov กันคะ จะเปลี่ยนประเทศจากออสเตรียเป็นเชคแล้ว :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น