มีโอกาสได้กลับมาที่ Kawaguchiko อีกครั้งนึง ที่ที่ขึ้นชื่อว่ามองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้สวยที่สุดแห่งหนึ่ง เราเชื่อว่าหลายๆคนก็เหมือนเรา มาแล้วก็อยากจะไปซ้ำอีกแน่นอน และอีกหนึ่งเหตุที่ต้องไปซ้ำคือภูเขาไฟฟูจิก็ขึ้นชื่อเรื่องขี้อายเหลือเกิน
คราวก่อนเราไปพักที่ Sunnide Resort Hotel ซึ่งกลายเป็นที่ยอดฮิตในหมู่คนไทยไปแล้ว รอบนี้อยากจะไปพักซ้ำ แต่ปรากฏว่าวันที่เราจะไปเต็มไปแล้วคะ ก็เลยต้องหาที่ใหม่ หาไปหามาเลยมาลงเอยที่ Fuji Lake Hotel เราจองผ่านเว็บของ Japanican นะคะสำหรับรอบนี้ ใครที่สนใจจะหาที่พักเรียวกัง ลองเข้าไปดูในเว็บไซด์ได้ มีหลายที่ที่น่าสนใจทีเดียว
ที่โรงแรมนี้เค้ามีบริการ pick up services พอไปถึงที่สถานี kawaguchiko station ก็โทรเรียกเค้ามารับได้เลยคะ (เนื่องจากเราไม่ได้เปิด roaming ไป ใช้เช่า pocket wifi ก็ใช้ตู้สาธารณะที่อยู่ที่สถานีโทรเอา) เค้าจะนัดที่จุดนัดพบ ถ้าจะไม่ผิดคือป้ายรถเบอร์ 10 โดยปกติแล้วป้ายรถเมล์จะอยู่หน้าสถานี แต่ป้ายรับส่งของโรงแรมจะอยู่ทางด้านขวามือของสถานี ตรงใกล้ๆกับรถไฟ Fuji ที่จอดโชว์อยู่
แต่ถ้าใครใช้บริการรถเมล์ก็มีป้ายหน้าโรงแรมเลย คือ เบอร์ 10 โรงแรมจะอยู่ด้านหน้า kawaguchiko lake ดังนั้นหากพักที่นี่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่เห็นฟูจินะคะ แต่ก็มีบางมุมบางจุดที่เห็นภูเขาไฟฟูจิ แต่ถ้าใครชอบวิวทะเลสาบอันนี้ได้เต็มๆเนื่องจากเรามาถึงที่พักก่อนเวลาเช็คอิน เค้าก็ให้ฝากกระเป๋าไว้ได้ก่อน จากนั้นเราก็ไปเดินเล่นแถวๆหน้าโรงแรม เดินออกไปนิดเดียวก็จะเป็นริมทะเลสาปตรงนี้แล้ว เห็นคนมาตกปลา ล่องเรือกันเยอะอยู่เหมือนกันจากโรงแรมเดินไปจุดขึ้นกระเช้า ropeway to Mt.Tenjo หรือล่องเรือก็ไม่ไกล (bus stop no.11) เดินแป๊บเดียวคะ ใกล้ๆก็มี lawson และก็ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาป เรียกได้ว่าถ้าพักโซนนี้ก็ไม่เหงา
พอได้เวลาเช็คอิน เราก็กลับเข้าไปโรงแรมใหม่คะ พอเช็คอิน เค้าก็จะมีการอธิบายโรงแรมคร่าวๆว่าอะไรอยู่ตรงไหน ห้องพักเราอยู่ตรงไหน ทานอาหารเย็นตรงไหน มื้อเช้าตรงไหน facilities ของโรงแรมมีอะไรบ้าง ออนเซนเปิดปิดกี่โมง ห้องหญิง ชายแยกกันยังไง ตอนเช็คเอาท์ มีบริการรถไปส่งที่สถานีออกเวลากี่โมงจากนั้นก็มี welcome drink ให้คะ ก็มีน้ำผลไม้และกาแฟที่ล็อบบี้ สวยเชียวคะ เห็นวิวเลคเต็มๆยามค่ำคืน วิวจะเป็นแบบนี้ใกล้ๆกะ lobby ตรงหน้าโรงแรมเลยก็จะมีร้าน convenience store มีขายพวกของฝากด้วยจากนั้นก็ขึ้นไปที่ห้องพักกัน ระหว่างทางเดินไปก็จะมีโชว์รูปภาพตลอดทางห้องเป็นแบบ Japanese western style room (lake view, east wing) สำหรับ 4 คน ฝั่ง east wing จะอยู่ใกล้กับห้อง onsen รวม แต่เวลาเดินไปทานอาหารเย็นอาหารเช้าก็จะต้องเดินไปนิดนึงภายในห้องพัก จะเหมือนแบ่งออกเป็นสองห้อง มีสองเตียงใหญ่อยู่ห้องนึง อีกห้องนึงจะเป็นห้องนั่งเล่นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งพอหลังเราทานอาหารเย็นแล้วเค้าก็จะมาปูที่นอนให้เป็นแบบฟูตองสำหรับอีกสองคนนอนlake view จากห้องพักตอนเช้าตื่นมาจะเป็นวิวนี้อุปกรณ์อื่นๆในห้องพักมีขนมให้เป็น complimentaryห้องน้ำ จะเล็กๆนิดนึง แต่อุปกรณ์ครบ ใช้ผลิตภัณฑ์ของ shiseido หมดเลย จริงๆ มาพักเรียวกังไม่ค่อยได้ใช้ห้องน้ำหรอกคะ ไปอาบที่ออนเซ็นแทน (มีอ่างด้วย แต่เหมือนจะลืมถ่ายรูปมา)มาที่มื้อเย็นกันบ้าง เค้าจะจัดให้เป็น private สุดๆ ตอนเดินไปเจอป้ายชื่อตัวเองตัวเบ้อเร่อตรงใจ จริงจังขนาดนี้เลย ตอนเช็คอินก็นัดหมายกะทางโรงแรมคะว่าจะทานอาหารเย็นตอนประมาณกี่โมง เค้าก็จะจัดให้บริการตามที่เราบอก ถ้าจำไม่ผิดจะมีรอบ 6.30 และ 7.00pmมื้อเย็นก็จะมาเป็นแบบ Kaiseki เค้าจะค่อยๆทยอยเสริ์ฟนะคะ กว่าจะหมดคอร์สก็เกือบชม.ได้ ^^" โดยรวมรสชาติใช้ได้เลย จากนั้นพอพักท้องให้อาหารย่อยจากมื้อเย็นเราก็ไปออนเซ็นกัน ที่นี่เค้าจะแบ่งแยกห้องชาย หญิง แต่จะมีการสลับวิวกัน อย่างเช่น ตอนเย็นห้องผู้หญิงอยู่ทางขวา ห้องผู้ชายอยู่ทางซ้าย พอตอนเช้าก็จะสลับห้องผู้หญิงไปอยู่ทางซ้าย แล้วก็ห้องผู้ชายมาอยู่ทางขวา มีเก้าอี้นวดและที่วัดความดันอยู่ด้านขวาของห้องออนเซ็น ในห้องออนเซ็นก็จะมีด้วยกัน 3 บ่อ คือ 1. บ่อ indoor ที่มี massage 2. บ่อ indoor ปกติ 3. open bath อย่างในรูปที่นี่นอกจากจะมีออนเซ็นรวมแล้วยังมี private onsen ให้บริการด้วย มีด้วยกัน 2 ห้อง ห้อง private onsen นี้จะเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิคะ จองใช้บริการได้ที่ล็อบบี้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ เค้าคิดเป็นชม.
เราจองเป็นห้อง Mt. Fuji view Cypress Private bath จริงๆอยากได้อีกห้องนึงมากกว่า (เพราะถูกกว่าเกือบครึ่ง) แต่ห้องนั้นเต็มไปแล้ว แต่พนักงานที่นี่บอกว่าวิวเหมือนกัน เราจองเวลาไว้ประมาณช่วง 6โมงเช้าถึง 7 โมง เนื่องจากพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 7 โมงกะว่าจะได้เห็นแสงแรกของวันและวิวฟูจิ แต่ปรากฏว่าวันนั้นฟูจิเธอขี้อาย เลยไม่เห็นอะไร 555
ภายในห้อง private onsen สรุปถามว่าคุ้มมั้ยที่จ่ายเงินเพิ่มเพื่อ private onsen เราว่าคือถ้าวันนั้นได้เห็นภูเขาไฟฟูจินี่ก็คุ้มนะ แต่ถ้าไม่ได้เห็น มีเมฆมาปิดก็ไม่คุ้มที่จ่ายเท่าไร
ภายในห้อง private onsen สรุปถามว่าคุ้มมั้ยที่จ่ายเงินเพิ่มเพื่อ private onsen เราว่าคือถ้าวันนั้นได้เห็นภูเขาไฟฟูจินี่ก็คุ้มนะ แต่ถ้าไม่ได้เห็น มีเมฆมาปิดก็ไม่คุ้มที่จ่ายเท่าไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น