หลังจากที่เราเคยรีวิวร้าน Rocket Coffeebar ไปแล้วเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ตอนที่ไปที่ Piman 49 เราก็เล็งร้านนี้ไว้ว่าจะต้องมาลองชิมให้ได้ นั่นก็คือ ร้าน D'ARK by Phillip di Bella - Piman 49 อันนี้เป็น FB และ website ของทางร้าน ในโครงการ Piman 49 เอง มีที่จอดรถนะ แต่ก็น้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความฮ็อตของหลายๆร้านที่อยู่ในโครงการ อย่างตอนเราไป เลี้ยวปุ๊บติดปั๊บ ก็เลยต้องจอด Valet parking เสียค่าจอดไป 50 บาท ปั๊มได้แค่ 1 ชม. จากนั้นก็เสียเรทปกติของโครงการ
เข้าไปถึงร้านปุ๊บ ชอบเลยสไตล์การตกแต่งร้าน โล่ง ดู modern ใช้ไฟตกแต่งดูเก๋มากมี coffee bar อยู่ตรงกลางร้าน พร้อมโชว์ขนม pastry ทั้งหลายมีการตบแต่งเสริมด้วยภาพศิลปะ หนังสือ และสินค้าเกี่ยวกับกาแฟ แก้วกาแฟ (เห็นราคา คาดว่าน่าจะขายด้วย)ภายในร้านมี 2 ชั้น ที่นั่งชั้น 1 ก็จะมีเป็นโต๊ะ แล้วก็มี counter ตรงกลางใหญ่อยู่ขึ้นมาที่ชั้น 2 กันบ้าง ก็มีมุมเก๋ๆให้นั่งมาดูที่เมนูอาหารและเครื่องดื่มกันบ้างชอบ concept ที่มาของ D'ark ฉะนั้นเรามาลองอะไรที่D'arkๆกันบ้าง
"You thought you knew how enjoyable your cup of coffee was in the morning, after lunch until the darkest hours of the night. You thought fine dining could not be your everyday lifestyle.
Go a little step further. Dare the small sins secretly enveloped in our dark jewels and signed dishes. Challenge the boundaries of your buds.
Express your D’ark side"
พอมาถึงที่โต๊ะ เค้าก็จะเสริ์ฟน้ำเปล่า ทำให้เข้ากะสมัยนี้ที่ฮิต fusion water กันหน้าตาอาหารที่นี่ ต้องบอกว่าแปลกคะ คือ ยกมาแล้วไม่รู้เลยว่าในจาน คืออะไร ตกแต่งอย่างมีสไตล์เว่อ 555 มาดูจานแรกกัน อันนี้เป็น Smoked beef and buratta คือ เป็นเหมือนเนื้อรมควันสอดไส้ด้วยครีมชีส อันนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายๆคนสั่งแล้วเราว่าอร่อยมาก คือ D'ark pancake มันลงตัวมาก แป้งแพนเค้ก วิปครีม ไซรัป (ขออภัย รูปนี่คือถ่ายตอนทานไปแล้ว เหลือครึ่งนึง ^^")D'aks salad อันนี้เหมือนเป็นผักต้มแล้วราดด้วยน้ำสลัด ค่อนข้างจะครีมมี่ทีเดียว ลืมบอกไปอีกอย่างที่นี่นอกจากเค้าจะเน้นตกแต่งจานให้อลังการแล้ว เค้าจะชอบเน้นมาโชว์การตกแต่งอาหารที่โต๊ะเราด้วย อย่างสลัดจานนี้ เค้าก็จะยกแยกมาระหว่างผักและน้ำสลัด จากนั้นก็มาเทน้ำสลัดให้ที่โต๊ะ สุดท้ายสำหรับของคาว คือ D'aks burger เป็นเบอร์เกอร์เนื้อ ขนมปังสีดำสมชื่อร้านที่เน้นดาร์ค ขอบอกว่ามันจานเล็กมากกกกกก สองชิ้นเล็กๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ wedge fries จานนี้เราชอบ beef patty มากมัน juicy สุดๆ ปิดท้ายด้วยกาแฟ cappuccino and latte เนื่องจากเรานั่งที่เคาน์เตอร์ตรงกลางร้านตรงข้ามกะ coffee bar จึงได้เห็นคนที่ทำกาแฟตลอดเวลา ท่าทางดูตั้งใจทำมากกแต่ละแก้ว ท่าบรรจงทำ latter art นี่ให้คะแนนความตั้งใจเกินร้อยเลยทีเดียว ส่วนรสชาติกาแฟก็สมกะความตั้งใจ มันดีมากก เข้ม นุ่ม กำลังดี ร้านนี้ executive chef เค้าเคยอยู่ร้านที่เป็น michelin star ที่ฝรั่งเศสมาก่อนด้วยคนนี้เลย คอยคุมอาหารที่จะมาเสริ์ฟทุกจานสรุปร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ดีงาม ยกให้ในความประณีตของอาหารที่นำมาเสริ์ฟให้เราแต่ละจานจริงๆ รสชาติโดยรวมใช้ได้ ให้ experience ในการทานอาหารอีกแบบนึง แต่อย่างนึงที่อยากเตือนไว้ก่อน คือ มาร้านนี้ต้อง slow life มากหน่อย เพราะกว่าจะได้ทาน รอนาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น