12/8/56

เตรียมการบ้านกะ NN : 12 ส.ค. Dead cross

ไม่ได้เขียนบล็อคซะหลายวัน วันนี้เนื่องในโอกาสวันแม่ (เกี่ยวมั้ย) เลยถือโอกาสเขียนซะหน่อย

ขนาดไม่ได้เขียนนาน ตลาดก็ยังไม่ไปไหน ลงไป test แถวๆ 140x หลายรอบ แนวรับนี้แถวว่าเหนียวทีเดียวสำหรับรอบนี้ แต่ขึ้นไปก็ยังไม่ผ่านทำได้ดีสุดแค่ sma200d แถวๆ145x ชนแนวต้านก็ถอยกลับมา สงสัยจะเป็น sideway ในกรอบแถวนี้ก่อนจะเลือกทางได้ (รึป่าว)
ข้อดีที่พอจะเห็นได้ ก็คือ SET ยังไม่ทำ lower low และ Volatility ก็ค่อยๆลดลง ถ้าพยายามสะสมกำลังขึ้นอีกหน่อย MACD ก็พอจะตัดกลับขึ้นไปได้ไม่ลำบากนัก

แต่ที่น่ากลัวก็คือ SET ทำสัญญาณ Dead cross แล้ว
แถมด้วยฝรั่งกลับมาขายหนักอีกรอบ นับ 3 เป็นที่เรียบร้อย ฝรั่งกลับมามุ่งมั่นจริงจังขายอีกรอบหลังจากเบามือไปนาน
แม้ว่ากองและย่อยจะช่วยดันตลาด (ปอบช่วยด้วยบางครั้ง) แต่ถ้าฝรั่งยังขายหนักอย่างนี้ก็สงสัยเหมือนกัน SET จะไปต่อได้ไง เหมือนเอาท่อนซุงไปขวางกระแสน้ำ
สิ่งที่เป็น catalyst ที่ทำให้ฝรั่งกลับมาขายหนักอีกรอบคงไม่พ้น ค่าเงินบาทและ bond yield gap (ผลสะท้อนของ flows และ valuation) ที่เป็นปัจจัยที่จะต้องเฝ้าระวังให้ดี
 
ภาพ macro ตอนนี้ ถือว่ากดดันตลาดจริงๆ ไม่มีอะไรเป็น catalyst ....QE taper off เป็นบทหนักสำหรับตลาด Emerging market โดยเฉพาะ Asean อย่างเราจริงๆ บทความ การจะหมดไปของ QE แปลว่าอะไรสำหรับเศรษฐกิจอาเซียน ของดร.สันติธาร เสถียรไทย นี้ขอแนะนำให้อ่านคะ ชอบคนเขียนคนนี้มากสรุปผลกระทบได้เห็นภาพสุดๆ

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่าไป Action speaks louder than word ถึงแม้ FED ยังไม่ได้ Taper off แต่ market ก็ forward looking และ take expectation ไปเรียบร้อยแล้ว ดูได้จาก Flows ที่ไหลออกจาก EM เข้า DM เราคงจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับตลาดหุ้นในยามที่ asset purchase ลดขนาดไปจนถึงการสิ้นสุดของ QE
นอกจาก QE ที่เป็นผลจากปัจจัยภายนอกแล้ว ไทยเรายังแย่อย่าง คือ มาเจอในตอนที่จีนซึ่งเป็นคู่ค้าที่สำคัญของประเทศไทย (ประมาณ 10% ของยอดส่งออก) ชลอตัวพอดี แถมการ reform ต่อไปของจีนก็ไม่ได้เน้นจะโตโดย trade แบบแต่ก่อน เน้น domestic consumption แทน spill over ที่จะออกมายังตลาดอื่นก็น่าจะไม่เยอะเท่าไรแม้จะมีมาตรการออกมาป้องกันไม่ให้เกิด hard landing

ไทยเราเจอสองต่อ ศึกภายนอกหนักแล้ว ทัพภายในประเทศเราก็อ่อนแอพอดี เจอปัญหาทั้ง consumption slowdown ซึ่งน่าจะเป็นผลสืบเนื่องต่อจาก Household debt ส่งออกก็ยังไม่ฟื้น ถึงแม้ค่าเงินจะอ่อนซะขนาดนี้ พอ 2 ล้านๆ ยังไม่เกิดก็พาลให้ investment ต่างๆ delay ออกไปทั้งภาคของรัฐและเอกชน เหมือนลากกันไปมาก็เลยฉุดกันไปหมด ตัวเลข GDP ขนาด BOT เองก็มองว่า 4% ถ้าได้ก็พอใจแล้ว แต่ BOT ยังมอง optimistic หน่อยตรงที่ว่า momentum น่าจะไม่ลากยาวไปยังปีหน้า ปีหน้าศก.น่าจะฟื้นขึ้นหน่อย ก็ต้องตามดูกันไป

ปัจจัยเดียวที่ตอนนี้นึกได้ว่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาได้ ก็คงจะเป็นเรื่องของ 2 ล้านๆ ที่น่าจะเป็น game changer ก็ต้องติดตามเรื่องที่เอาเข้าสภากันในวีคหน้า ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงการตีความเรื่องโครงการน้ำด้วย ถ้าผิดรัฐธรรมนูญ ก็จบกันเพราะนั่นหมายความถึงการยุบสภา เรื่องราวก็จะ delay ต่อไปอีก ....ส่วน 2 ล้านๆ ถ้าไม่สามารถออกมาเป็นพรก.ได้ แบ่งโครงการทำภายใต้งบประมาณ ก็น่าจะช่วย sentiment ได้บ้าง เพราะอย่างน้อยก็มีโครงการใหญ่ที่ก่อให้เกิด productivity/multiple effect ออกมาบ้าง....เขียนเรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว เบื่อมาก แต่มันเป็นประเด็นที่ต้อง keep in mind

ส่วนงบการเงินที่กำลังออกมาในช่วงไตรมาส 2 นี้ ช่วงนี้ก็ออกกันเริ่มเยอะแล้ว ส่วนใหญ่ออกมามักจะโดน downgrade earnings ทั้งปี 2013 กันซะเป็นส่วนใหญ่ น่าจะเป็นเพราะภาพ macro ที่คนมองว่าครึ่งหลังจะแย่กว่าครึ่งแรกด้วยมั้ง

ที่เขียนมาก่อนหน้าอ่านดูแล้วหดหู่ไปมั้ย ><"

จริงๆ  SET ก็ยังอยู่ในกรอบ fibo ได้ดี

ตอนตลาดไทยพอจะทรงๆ ตลาดต่างประเทศดูกำลังจะปรับฐาน ก็ไม่รู้ว่าจะ decouple ไหวมั้ย
ส่วนตัวยังมองว่าก็ยังเล่นไปในกรอบนี้ไปก่อนที่จะเลือกทางได้ ถ้าไม่มีอะไรดราม่า เป็น trigger incident อีก low เดิมก็น่าจะ support ได้ แต่ให้ขึ้นก็ไป high เดิม ก็คงยาก คงเป็น sideways กรอบกว้างๆอย่างนี้ไปก่อนในยาม vacuum market

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น