รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น ดูดอกไม้ ช่วง golden week (เดือนพฤษภา) : ตอนจบ

ความเดิมตอนที่แล้ว รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น ดูดอกไม้ ช่วง golden week (เดือนพฤษภา) : ตอนที่ 1

มาต่อวันที่ 4 ของทริปคะ  

วันนี้เราจะเดินทางออกจากเลคคาวากูจิโกะเพื่อมุ่งหน้าไปยัง Ibaraki (อิบารากิ) เพื่อไปชมทุ่งดอกไม้อีกหนึ่งแห่ง ที่เราใฝ่ฝันมานานว่าซักวันต้องมาให้ได้ เห็นรูปในรีวิวแล้วมันน่าโดนมาก นั่นก็คือ ทุ่งดอกนีโมฟิลา (nemophila) สีฟ้านั่นเองเราออกเดินทางจากโรงแรมเช้าหน่อย กินข้าวทำอะไรเสร็จประมาณ 9 โมงก็เช็คเอาท์ เพราะว่าวันนี้ต้องขับรถไกลมาก จาก lake kawaguchiko เมือง Yamanashi มุ่งหน้า Hitachi Seaside park เมือง Ibaraki ระยะทางประมาณ 235 กิโลเมตร ระยะเวลาในการขับก็ประมาณ 3 ชั่วโมง 

เรามีแวะเติมน้ำมันครั้งนึงตอนเข้าเขต ibaraki แล้ว ในปั๊มบนทางด่วนมี rest area ที่ใหญ่มาก ร้านค้าเพียบ เลยถือโอกาสลอง starbucks รสที่มีเฉพาะช่วงนี้ คือ แคนตาลูป หวานมากๆ แต่ก็อร่อยดี ได้ฟิลลิ่งกินแคนตาลูปจริงๆ ตรงด้านใต้มีเนื้อให้หน่อยๆด้วยเป็นการขับรถที่ยาวนานมาก แต่ทางโล่ง วิ่งทางด่วนตลอด ขับง่าย ไม่นานก็ถือ Hitashi seaside park รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ใน website เค้านะคะ จริงๆที่นี่มีดอกไม้ให้ชมตลอดทั้งปี แล้วแต่เลยว่าช่วงไหนเป็นดอกอะไร แต่ช่วงที่เราไปเดือนพฤษภา จะเป็นดอก nemophila

ไปถึงก็จอดรถตรงแถวนั้น แล้วเดินมาคะ แค่ทางเข้าก็ยิ่งใหญ่แล้วฝาท่อเมืองนี้ทางเข้าด้านนี้ก็มีตู้อัตโนมัติขายตั๋ว กดได้จากตู้เลย พอถึงทางเข้าจะมีพนักงานเช็คบัตรที่เราซื้อมาอีกทีเข้ามาด้านในก็ยิ่งใหญ่อลังการ เค้าจะมี map ให้อะไรอยู่ตรงไหน แต่หลักการง่ายๆ ของเราก็คือ เดินตามฝูงชนไปนั่นแหละคะและแล้ว เราก็ได้มาเจอสิ่งที่อยากเห็นมานานทุ่ง nemophila บนยอดเขา เค้าว่ามีประมาณ 4-5 ล้านดอกเลยทีเดียวผู้คนมหาศาล ที่กว้างใหญ่ บวกกับเค้าจัดระเบียบดี คนมีวินัยก็เลยไม่วุ่นวายอะไรดอกสีฟ้านี้มันมีเสน่ห์จริงๆ มองและถ่ายรูปได้อยู่นาน แม้แดดจะร้อนมากก็ตาม ณ จุดนั้นขึ้นเนินไปดูกันมั่ง กว่าจะเดินไปถึงยอดสุดนี่ก็เมื่อยทีเดียวสมกะชื่อ hitachi 'seaside park' ด้านหลังของเขามีทะเลอยู่ด้วยณ จุดบนสุด มองลงมา ....อืม เราเดินมาไกลเหมือนกันนะดอกอื่นๆก็มีนะเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานมากนัก เพราะต้องเดินทางกลับโตเกียว ขับรถกลับไปอีกเกือบ 2 ชม. การเดินทางของเราครั้งนี้จะย้อนไปมาหน่อย แต่เนื่องจากต้องการเก็บทั้ง pink moss ที่ shiba sakura และ nemophila ที่ hitachi seaside park ทั้งสองแห่งแม้จะอยู่ใกล้โตเกียว แต่ว่าคนละด้านกัน ถ้าเปิด map ดู คือ kawaguchiko จะอยู่ด้านซ้าย โตเกียวอยู่ตรงกลาง ส่วน ibaraki อยู่ด้านขวา ก็เสียเวลาเดินทางตรงนี้ไปเยอะเหมือนกัน 

อย่างที่เคยบอกไปว่าค่าทางด่วนที่นี่โหดมากก รอบนี้จาก kawaguchiko - ibaraki (1300+100+3030+1300) และ ibaraki กลับโตเกียว (3030+100+1970) จ่ายค่าทางด่วนไป 10830 เยนจากนั้นเราก็เอากระเป๋าไปดร็อปและเช็คอินที่โรงแรม คืนนี้เราจะนอนกันที่ Tokyo stay shinjuku

จากนั้นก็เอารถไปคืนที่ Nissan Car Rental Nissan Shibuya Cross Tower แต่ก่อนคืนเราก็ต้องเติมน้ำมันให้เค้าก่อน สรุปรอบนี้ใช้ไปประมาณ 1 ถังกะอีก 1/4 เติมไป2 ครั้ง รวม 6346 เยน เห็นมั้ยว่า ค่าน้ำมันถูกกว่าค่าทางด่วนอีกปั๊มน้ำมันในเมืองเค้าเจ๊งมาก เนื่องด้วยที่น้อย สายเติมน้ำมันอยู่ข้างบนเลย หลังจากคืนรถ เราก็ไปเดินเล่นช็อปปิ้งเก็บตกกันต่อที่ shibuyaรอบนี้ bao bao ของเหลือเต็ม shelf เลย สงสัยเพราะค่าเงินแพง ตอนที่เราไปก็ 0.33 หละ ตอนนี้แพงหนักเข้าไปอีก T_T ส่วน onitsuka ถึงกะมีคนขายเป็นคนไทยประจำร้านเลย เดินจนดึกแล้ว ก็แวะกินราเมงข้อสอบกัน ถึงดึก คนก็ยังต่อคิวกันเพียบ วิธีการสั่ง ก็กดจากในตู้แล้วจ่ายเงิน จากนั้นพนักงานก็จะให้ใบมาติ๊กๆ customize ว่าเราอยากได้แบบไหน เช่น เส้นแข็งหรือนุ่ม เผ็ดระดับไหนเป็นต้น พอได้โต๊ะก็เตรียมทำข้อสอบกัน ได้ทานหละ ของเราเพิ่มหมู เพิ่มไข่เราสั่งมันปานกลางสำหรับน้ำซุป แม่เราสั่งไม่มันเลย เราลองชิมแล้วเราว่ามันอร่อยกว่านะ 

จากนั้นก็กลับที่พักกันคะ 

วันที่ 5

มื้อเช้าง่ายๆ ตอนที่ไป family mart มีขนมเป็น matcha collection ให้เลือกเพียบภารกิจตอนเช้าก็เริ่มต้นด้วยการไปไหว้พระที่ Sensoji Temple กันก่อน เหมือนเดิมพอไปถึง asakusa ก็ขอชมวิวริมแม่น้ำ sumida กันซะหน่อยก่อนที่ Azumabashi bridgeผ่านประตู Kaminarimon กว่าจะเข้าไปถึง ต้องเสียทรัพย์กันก่อน ถึงแล้ว Sensoji Temple ล้างมือ ไหว้พระ ตามธรรมเนียม จากนั้นไปเดินเล่นต่อที่ Ameyoko street ผลไม้ เสื้อผ้า หุ่นยนต์ ของเล่น ที่นี่มีหมด แวะทานมื้อกลางวันที่ร้านนี้ Isomaru suisan ปิ้งย่าง สไตล์ญี่ปุ่น จริงๆร้านนี้มันเป็นร้านแนว Izakaya ร้านนี้มีหลายสาขานะคะ แต่มาสาขานี้คนไม่เยอะดี คืนก่อนตอนแรกจะกินที่ shibuya หละแต่คิวยาวมาก บรรยากาศในร้านสั่งปุ๊บ จะเป็นของสดมาให้ปิ้งเอง  ปลาหมึกนี่มาชิ้นใหญ่มาก เค้าจะมีกรรไกรไว้ให้ตัดด้วย ไม่ง้านเดี๋ยวไม่สุก ปิ้งๆย่างๆ มันปูนี่คือที่สุด อร่อยมากsashimi เค้าก็มีนะ จริงๆมีอีกหลายอย่างเลยในเมนู น่าทานทั้งนั้นค่าเสียหายมื้อนี้ 6536 เยน ถ้ากินที่ไทย คงได้แค่ปลาดิบรวมจานเดียวจากนั้นก็ไปซื้อบรรดาขนมของฝากที่ตึกม่วง Takeya คือเดินไปจนสุด Ameyoko street แล้วเลี้ยวซ้ายจากนั้นก็กลับมาโรงแรมคะ คนอื่นเค้าแพ็คของกัน แต่เราขอไปเดินเล่นต่อย่าน Shinjuku อุตส่าห์มาพักแถวนี้ทั้งทียังไม่ได้เดินเล่นแถวนี้เลย มีเวลาชั่วโมงนึงก่อนเดินทางไปสนามบิน ขอซะหน่อยที่ isetan ใกล้ที่พักเลย ใครชอบสรรหาของกิน ชั้นใต้ดินเหมาะกะคุณมาก ร้านเพียบ น่ากินทั้งนั้น ส่วนเราติดใจเค้กร้าน sadaharu aoki มาตั้งแต่ตอนไปฝรั่งเศสมานี่เลยต้องมาจัดซ้ำ ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว 

ที่ haneda มีให้ออกไปชมบรรยากาศสนามบินด้วยนะปิดทริปอย่างเป็นทางการ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทุกการเดินทางมันก็ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิต หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่คิดไม่ออกว่าเดือนพฤษภา ไปญี่ปุ่นไปทำอะไรดี