ความเดิมตอนที่แล้ว
Day 7 (3 Jan 16) : ไปที่ใหม่ๆบ้าง ทาคายาม่า (Takayama)
วันนี้ตอนเช้าเราจะเดินทางออกจาก Tokyo มุ่งหน้าสู่ Takayama กันคะ เราใช้ JR Pass ก็นั่ง Shinkansen ไปลงที่ Nagoya ก่อน....ตั๋วรถไฟนี้เรา reserved ไว้ตั้งแต่ตอนที่เราแลก JR pass แล้ว หน้าที่ของเราอย่างเดียว คือ ไปให้ทันรอบรถไฟ และขึ้นให้ถูกขบวน โดยปกติ ตั๋ว reserved ก็จะมีบอกว่าเราต้องนั่งตู้รถไฟไหน ที่นั่งไหน อย่านั่งผิดที่คะ เพราะจะมีพนักงานมาคอยตรวจตั๋ว....สำหรับใครที่ไม่ได้ reserved ตั๋วไว้ก่อน ก็จะต้องนั่งขบวนที่เป็น non reserved คือ ขึ้นได้เหมือนกันแต่ไม่ fixed ที่นั่งประจำ เคยนั่งขบวนนี้ครั้งนึงไม่มีมาตรวจตั๋วเหมือนตู้ reserved....ข้อดีของการ reserved ที่นั่งไว้ก่อนก็คือ ยามที่คนเดินทางกันเยอะคะ อย่างช่วงปีใหม่อย่างนี้ คนเดินทางข้ามเมืองกันเยอะ เราก็มั่นใจได้ว่าเราได้ไปขบวนนี้แน่ๆ ตามเวลาที่เราวางแผนไว้ แล้วก็ขึ้นไปแล้วมีที่นั่งแน่นอนจากนั้นก็ต่อด้วย Limited express wide view hida เพื่อไปลงที่จุดหมายปลายทางของเรา Takayama ระยะเวลาการเดินทางค่อนข้างนานเหมือนกัน เราออกจากที่พักเรา คือ สถานี Ikebukuro 7 โมงกว่า กว่าจะถึง Takayama ก็ประมาณเที่ยงกว่า ....แนะนำ เสียเวลาตื่นเช้าซักนิดนึง มานอนบนรถไฟเอา เพราะไปถึงเมืองที่เที่ยวแล้วเราจะได้มีเวลามากขึ้น
วิวระหว่างทาง ตรงนี้น่าจะเป็นช่วงเมือง Gero onsenเมื่อถึงที่ Takayama แล้ว แม้ยังไม่ถึงเวลา check in โรงแรม เราก็ขอเอากระเป๋าไปฝากก่อนจะได้ตัวปลิว ไม่มีสัมภาระมาเป็นอุปสรรค รอบนี้เราพักกันที่ Ryokan Tanabe Takayama ตามอ่านรีวิวโดยละเอียดได้จากในลิงค์นะคะ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง มาถึงเมือง takayama ทั้งที ต้องจัด Hida beef แน่นอนของขึ้นชื่อของเมืองนี้ เราไปลงเอยที่ร้าน Marauki ร้านนี้อยู่ใกล้ๆกับที่พักเราเลย เดินมานิดเดียว จุดสังเกตง่ายๆ คือ อยู่ตรงข้ามกับวัด Hida Kokubunji และหน้าร้านจะมีขายเนื้อแบบนี้อยู่ ...ร้านดังของเมืองอีกร้าน คือ Ajikura ที่อยู่ตรงสถานีรถไฟ takayama แต่เพื่อนเราที่มาเที่ยวก่อนหน้าบอกว่าร้าน Marauki เด็ดกว่า เราก็เลยตรงมาที่ร้านนี้เลย ทางเข้าร้านอาหารจะอยู่ด้านข้างๆตอนที่เราไปถึงก็เกือบบ่ายโมงแล้ว คนยังแน่นร้านอยู่เลย ต้องต่อคิว...ไปถึงก็ไปลงชื่อรอเรียกคิวก่อนเลย แล้วค่อยศึกษาเมนูกันทีหลังว่าสั่งไรดี บรรยากาศในร้าน เมื่อถึงคิว เค้าก็จะพาเราไปที่โต๊ะคะ เตาแบบนี้ตัวไม่เหม็นเท่าไรนะ บนโต๊ะจะมีซอสให้เลือก 2 แบบ ลองเทมาชิมก่อนว่าเราชอบแบบไหน มะนาว พริก กระเทียมมีให้เพียบ น่าจะถูกปากคนไทยช่วงที่เราไปมี lunch set พอดี ก็เลยสั่งเป็นอันนี้ ชุดนี้แพงสุดในร้าน Sirlion steak : a5 premium hida beef จะเป็นเนื้อมาให้ 200 กรัม แล้วก็เซ็ทเครื่องเคียง ผัก พร้อมข้าว ....ชุดนี้แค่ประมาณ 5000 กว่าเยนเท่านั้น ถ้ากินในไทย แปลงเป็นเงินไทยแล้วคงคูณอีกหลายเท่าแล้วก็สั่ง Best karubi มาเพิ่ม ตัวนี้จะมันหน่อย แต่น้อยกว่า sirloinแล้วก็สั่งแบบ lean มาสำหรับคนไม่ชอบมันรวมเนื้อ 3 ประเภทจะลงมาทานหละนะ ร้านนี้ต้องย่างเองนะคะ ซอสจะมีให้เลือกเป็น natural salt กะ special sauce ของเค้า เราเลือกเป็น natural salt หมดเลยไม่อยากให้เสียรสชาติเนื้อ ตอนจะย่างเนื้อก็เอาเกลือมาโรยเองก่อนย่างตัว sirloin ชนะเลิศสุด ตามราคาเลย 555....นิ่มนวล ละลายในปากกันเลยทีเดียว อีกสองตัวก็ดีนะ คือ บางทีกินมันมาก มันก็เลี่ยนมากอ่ะ อร่อยๆ เด็ดที่น้ำจิ้ม yakiniku ด้วย ...Highly recommended ใครมาถึงทาคายาม่าแล้วต้องมาร้านนี้นะ ถ้าไม่มาร้านนี้ก็ขอให้ได้ลองเนื้อ Hida มันดีจริงๆ
ร้านเค้ารางวัลเพียบทานเสร็จ เราก็เดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามไปวัด Hida Kokubunjiที่เมืองนี้เราจะเห็นตุ๊กตา ซารุโบโบะ (sarubobo) อยู่เต็มเมือง เพราะถือเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งที่มีชื่อของเมืองทา คายาม่าจุดเด่นของวัดนี้ คือ เจดีย์ไม้ 3 ชั้นและต้นแปะก๊วยอายุ 1200 ปี แต่ตอนที่เราไปมันเป็นหน้าหนาว ใบร่วงหมดต้นวัดที่ญี่ปุ่น พอหน้าหนาว เค้าจะผูกผ้าแดงอย่างนี้ที่พระพุทธรูป เห็นมา 2 วัดหล่ะ คือ ที่นี่และที่วัด sensojiจากนั้นเราก็จะเดินไปที่สะพานแดง สัญลักษณ์ประจำเมืองนี้ จากวัด เดินตรงย้อนกลับไปผ่านโรงแรมเรา เดินไปอีกนิดแล้วเลี้ยวไปทางขวามือก็จะเห็นสะพานคะ ก่อนจะไปถึงสะพานแดง ก็จะผ่านสะพานขาวและเขียวก่อน เมืองนี้เมืองเล็กๆ เดินง่าย หาไม่ยาก ระหว่างทาง สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ คือ เมืองนี้มีความกุ๊กกิ๊กน่ารักทีเดียว ร้านค้าต่างๆ ตบแต่งร้านขายของก็มีความกุ๊กกิ๊กซ่อนอยู่ คำว่ากุ๊กกิ๊กของเรา ก็อาจจะสื่อถึงประมาณว่า มีความน่ารัก และใส่ใจในรายละเอียด เราชอบร้านนี้มากเลยเหมือนเป็นคาเฟ่ญี่ปุ่น ขายของตกแต่งบ้านหน้าร้านราเมน เป็นหมูที่โดนสต๊าฟไว้เลยมีศาลเจ้าซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เล็กๆเดินมาเรื่อยๆก็จะเจอสะพานสีเขียว (สะพาน Ikadabashi) นี้ เลยสะพานเขียวไปนิด ตรงบริเวณนี้จะมีทางเล็กๆ เดินลงไปได้นะคะ แล้วก็ถึง สะพาน Nakabashi สะพานแดง ทอดข้ามแม่น้ำ Miyagawaเสียดายมาก ปีนี้หิมะตกช้า ไม่ง้านเราคงได้ภาพแบบที่จินตนาการไว้มาตลอด คือ สะพานแดงตัดกับสีขาวของหิมะ ...ปกติช่วงเวลานี้ของปีหิมะตกหนาแล้ว แต่ปีนี้ global warming เป็นเหตุ
จากบนสะพาน บ้านเมืองนี้เค้าสงบดีนะคะ ชอบๆ ดูไม่พลุกพล่านมาก มีรถลากให้บริการ จากตรงสะพานแดงนี้ เดินไปนิดเดียว ข้ามฝั่งสะพานมา ก็จะถึง บ้านโบราณย่าน Sanmachi-Suji เป็นย่านที่คุมโทน บ้านสีน้ำตาลดำทั้งหมด ที่เมืองทาคายาม่านี้เค้าดังสาเก ร้านขายสาเกเพียบบริเวณนี้ ใครชอบจิบก็มาหาซื้อกันได้ อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมาแล้วต้องทาน คือ ซาลาเปาเนื้อ hida มีให้เลือกหลายร้านมาก ไม่รู้เหมือนกันร้านไหนอร่อย แต่ร้านนี้ฮ็อตฮิตแน่นอน คือ ร้านซูชิเนื้อฮิดะ คนต่อคิวเพียบ เข้าไม่ถึงเลยมากินขนมเซมเบ้ที่อยู่ตรงข้ามแทน ส่วนตัวเราว่าเฉยๆอ่ะ
แถวนี้ประมาณ 4 โมงกว่า 5 โมง เค้าก็ปิดร้านกันหมดแล้ว เดินได้อีกซักพัก เราก็กลับที่พักคะ
แถวนี้ประมาณ 4 โมงกว่า 5 โมง เค้าก็ปิดร้านกันหมดแล้ว เดินได้อีกซักพัก เราก็กลับที่พักคะ
มาแนะนำขนมกันบ้าง อันนี้เป็นโตเกียวบานาน่า รุ่นแปะรูปดอกไม้ เห็นที่สถานีโตเกียว เลยซื้อกลับมา ...รสชาติไม่ต่างจากโตเกียวบานาน่าปกติ แต่สวย :Pส่วนอันนี้เจ้าช็อคโกแลต Van Houten แบบร้อนขายใน family mart มันดีมากเลย พอเช้ามาก่อนที่เราจะไป shirakawago กัน ....ตอนเช้ามาทาคายาม่าทั้งทีต้องเดินตลาดเช้าคะ ตลาดเช้าของเค้าจะมีด้วยกัน 2 แห่ง คือ ตลาดเช้า Takayama Jinya ซึ่งเน้นขายผลไม้สด และ ตลาดเช้า Miyakawa ซึ่งเน้นของกิน ของฝาก....ตลาดเช้านี้เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงประมาณเที่ยงคะ
เราเดินตลาด Takayama Jinya เดินตรงมาจากที่พักเรา Ryokan Tanabe ตรงๆมาข้ามสะพานนี้ ก็ถึงเลย เช้านี้หนาวมากคะ ประมาณ -2 องศาได้ หมอกลง พูดทีควันออกปากเลย ริมน้ำที่เห็น น้ำใสๆ เห็นปลาด้วยบรรยากาศตลาดเช้า เราว่าเหมาะกะแม่บ้านมาซื้อผักของสดไปทำกับข้าวมากกว่านักท่องเที่ยวมาซื้อของนะ ส่วนนักท่องเที่ยวก็มาเดินเอาบรรยากาศแทนหละกันสำหรับใครอยากซื้อของฝาก ซื้อตรงบริเวณร้านที่เปิดอยู่ตรงตลาดเช้านี้ก็ได้ หรือว่าจะไปซื้อตรงร้านที่อยู่ใกล้ๆสถานี takayama ก็ได้ สำหรับ kitkat มีรสชาติที่ limited เฉพาะแถบเมือง gifu นี้ก็คือ รสถั่วแดงคะ โดยรวม เราว่าเมืองทาคายาม่า ก็น่ารักดีนะ แม้ไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไรนัก เป็นเมืองสงบๆ ร้านค้าปิดไว สถานที่ท่องเที่ยวเดินซักครึ่งวันก็น่าจะครบ ทีเด็ด คือ เนื้อ hida ที่มาถึงแล้วต้องจัดให้ได้ ตอนหน้าเราจะพาไปเที่ยวชิราคาวาโกะกันต่อคะ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น